ปวดหัวด้านขวา ทานยาแก้ปวดมาสามวัน ไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร ประวัติเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง

สวัสดีครับ คุณ Steve Goh 

            อาการปวดหัวนั้น มีสาเหตุได้หลากหลาย โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

1. ปวดหัวปฐมภูมิ คือการปวดหัวทีไม่มีสาเหตุชัดเจน เช่นปวดไมเกรน ปวดศีรษะแบบกล้ามเนื้อตึง (tension headache) เป็นต้น โดยการปวดหัวในกลุ่มนี้มักมีอาการนำ เช่น เห็นแสงวูบวาบก่อนปวดหัว มีปัจจัยกระตุ้นได้ เช่น ความเครียด การอดนอน  อาการจะคล้ายๆเดิม สามารถปวดเปลี่ยนข้างในแต่ละครั้งได้ การรักษาให้ลดปัจจัยกระตุ้นลง หากอาการเป็นมากอาจรับประทานยาคุมอาการโดยแพทย์ร่วมด้วย

2. ปวดหัวทุติยภูมิ คือการปวดหัวที่มีพยาธิสภาพอยู่ในสมอง เช่นเนื้องอก ส่วนใหญ่อาการปวดมักจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดลักษณะเดิม 

3. อาการปวดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเครียด อาการมีไข้ ความดันโลหิตสูง ภาวะไซนัสอักเสบ เป็นต้น 

         ซึ่งหากดูจากข้อมูลที่คุณให้ว่าเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง นั้น อาจจะเป็นอาการปวดหัวจากภาวะไซนัสอักเสบได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดบริเวณโพรงจมูก หว่างคิ้ว อาจมีปวดร้าวกระบอกตาได้ อาจมีน้ำมูกเหม็น ร่วมกับมีไข้ได้ด้วย ซึ่งแนะนำควรไปรักษากับแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง

          หากเป็นจากสาเหตุอื่น อาจจะลองมองหาปัจจัยกระตุ้นแล้วหลีกเลี่ยง ร่วมกับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล เนื่องจากมีความปลอดภัย 

          อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าหากอาการปวดหัวไม่ดีขึ้น หรือ มีอาการทางระบบประสาทเช่น แขนขาอ่นแรง อาเจียนพุ่ง ซึมลด แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ครับ