ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่มากมา 12 วัน ไม่ถ่ายมา 3 วันแล้ว ไปหาหมอ ได้ยาลดกรดมากินตลอด ไม่ดีขึ้นเลย ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ decade0098,

               อาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ อาจเกิดจาก

               1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                ทั้งนี้ หากไม่ถ่ายมา 3 วัน ก็อาจทำให้อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบเพิ่มขึ้นได้ 

                2. มีนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนหรือด้านขวา อาการปวดจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ปวดนานแต่ละครั้งอย่างน้อย 30 นาทีถึงหลายๆชั่วโมง และมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการปวดมักเกิดขึ้นหลังจากทานอาหารมื้อหนัก หรืออาหารที่มีไขมันสูง นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในกระเพาะอาหาร และอาจมีจุกบริเวณลิ้นปี่ด้วย

                3. ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน แต่จะมีอาการปวดท้องบริเวณท้องส่วนบนรุนแรง และมักปวดร้าวไปที่หลัง และมีท้องอืด แน่นท้อง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีตัวเหลือง ตาเหลือง เกิดภาวะขาดน้ำ เช่น ผิวแห้ง กระหายน้ำ หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น มักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

                 สำหรับการที่ไม่ถ่ายอุจจาระมา 3 วัน ก็อาจทำให้เกิดมีท้องร้อเสียงดังได้ แนะนำควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ คือควรเกินวันละ 2 ลิตร หากยังไม่ถ่าย อาจทานยาระบายช่วย แต่หากยังไม่ถ่ายอีก แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ 

                ในช่วงนี้ ก็ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย งดการทานเนื้อสัตว์ปริมาณมาก อาหารต้องรสไม่จัด ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด เป็นต้ ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ เป็นต้น  

                 ทั้งนี้ หากอาการยังไม่บรรเทา แม้จะทานยาลดกรดร่วมด้วยแล้วก็ตาม แนะนำควรไปพบแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรมเพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไปค่ะ