ถามแพทย์

  • ตอนดึกมีเจ็บท้อง ถ่ายเหลว อยากอาเจียน มีไข้ กินยาแล้ว อาการดีขึ้น แต่ปวดหัวมาก เป็นอะไร

  •  piyim
    สมาชิก
    ขอสอบถามค่ะ ตอนเย็นกินข้าวไปแล้วกับข้าวคือต้มผักดอง ตอนดึกมีอาการแสบท้องแบบหิวข้าว กินนมถั่วเหลืองไป 1 กล่อง สัก 2 ชม. มีอาการเจ็บท้องเหมือนโรคกระเพาะแบบเจ็บหนัก เลยกินนมถั่วไปอีก 1 กล่อง จากนั้นมีอาการถ่ายเหลวร่วม 2 ครั้ง อยากอาเจียน จึงกินยาธาตุน้ำขาวไป สักพักอาการปวดท้องหายและอาการถ่ายเหลวหาย แต่เริ่มมีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เลยกินยาพาราไป 2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง จำนวน 6 ครั้ง ติดต่อกัน อาการไข้หาย แต่มีอาการปวดหัวรุนแรง ซึ่งกินยาพาราก็ไม่หาย อาการไข้เป็น 1 วันหาย แต่อาการปวดหัวเป็นต่อเนื่อง แบบนี้เกิดจากอะไรคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ piyim,

                       อาการแสบท้อง เจ็บท้อง ถ่ายเหลว มีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย น่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบเฉียบพลันจากการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อโรคอาจมามาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เชื้อโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายชนิด

                  ในเบื้องต้น ให้พยายามดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ส่วนอาหาร ก็พยายามเลือกทานเฉพาะอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะอาจทำให้มีอาการถ่ายเหลวอีก

                   ทั้งนี้ หากอาการต่างๆ ดีขึ้นแล้ว มีเหลือแค่เฉพาะอาการปวดหัว ก็อาจเป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่มีท้องเสียได้ โดยอาจเกิดจากร่างกายเสียสมดุลของเกลือแร่ หรืออ่อนเพลียจากการที่พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือหากมีโรคปวดศีรษะไมเกรนอยู่ อาจเป็นไมเกรนที่กำเริบได้ ในเบื้องต้น แนะนำควรดื่มน้ำเกลือแร่ต่อไปอีกซักระยะก่อน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดการทำงานหนัก งดการใช้สายตามากเกินไป ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์นานเกิน เป็นต้น

                   สำหรับยา หากทานยาพาราเซตามอลแล้วอาการปวดหัวยังไม่ทุเลา อาจทานยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ เช่น ไอบูโพรเฟน ไพรอกซิแคม เป็นต้น แต่หากทานแล้ว อาการปวดหัวยังไม่ทุเลาลง หรือยังคงมีไข้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ต่อไปค่ะ