ถามแพทย์

  • แม่อายุ 51 ปี ถ่ายอุจจาระสีดำ เคยทานยาแก้ปวด กังวลว่าจะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร/ลำไส้

  •  m'Am Kasipan
    สมาชิก

    คุณแม่อายุ 51 ปี ค่ะ มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นสีดำมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้วค่ะ และมีอาการท้องผูกร่วมด้วย


    ไปหาคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่า อาจมีเลือดออกในทางเดินอาหาร (กะเพาะ หรือลำไส้)


    และคุณหมอนัดส่องกล้องดูกระเพาะวันจันทร์หน้าค่ะ อยากทราบว่าคุณแม่มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้/กะเพาะไหมคะ 


    ปล. คุณแม่เคยทานยาพวก แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อค่ะ และหยุดยามาประมาณ 1 เดือนแล้ว 


    ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ


     

    สวัสดีค่ะ m'Am Kasipan,

                    การที่อุจจาระเป็นสีดำ อาจเกิดจาก

                    1. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (์NSAIDs) เช่น เช่น ไดโคลฟีแนค (diclofenac), ไพรอกซิแคม (piroxicam), ไอบูโพรเฟน (ibuprofen), แอสไพริน (aspirin) เป็นต้น ซึ่งยาแก้ปวดข้อที่คุณแม่ m'Am Kasipan ทาน น่าจะเป็นยาในกลุ่มนี้ค่ะ ซึ่งหากทานต่อเนื่องหรือทานบ่อยๆ ยาจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบ และมีเลือดออกได้ หากเลือดมีปริมาณไม่มาก ก็จะทำให้อุจจาระเป็นสีดำ หากมีปริมาณเลือดมาก ก็จะทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้

                     ในกรณีของคุณแม่ แม้ว่าจะหยุดทานยาไปแล้ว แต่หากเคยทานมาเป็นเวลานาน ก็ยังอาจส่งผลให้กระเพาะอาหารยังคงอักเสบต่อเนื่องได้อยู่ค่ะ

                   2. โรคกระเพาะอาหารอักเสบและแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก การติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร (H.pylori) การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบบุหรี่ การดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมเป็นประจำ ความเครียด เป็นต้น

                   3. หลอดเลือดในหลอดอาหารโป่งพอง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคตับแข็ง ซึ่งสาเหตุของตับแข็งส่วนใหญ่ก็มาจากการกินเหล้า หรือตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบบีหรือซี หากเลือดออกไม่มากก็จะมีถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หากมีเลือดออกมาก ก็จะมีอาเจียนเป็นเลือด หรือถึงขั้นถ่ายอุจจาระเป็นเลือดได้

                   4. มะเร็งกระเพาะอาหาร นอกจากจะมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นสีดำแล้ว มักมีอาการอื่นๆ เรื้อรังมาร่วมด้วย เช่น ปวดบริเวณลิ่นปี่ ทานแล้วอิ่มเร็ว เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น

                   5.  มีภาะเกร็ดเลือดต่ำจากโรคต่างๆ หรือทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด

                   6. อุจจาระที่มีสีดำ อาจไม่ได้เกิดจากการที่มีเลือดปนเพียงอย่างเดียว ยังอาจมีสาเหตุจากอื่นๆ ได้อีก เช่น การทานวิตามินและเกลือแร่ที่มีธาตุเหล็กผสมอยู่ การทานยาคาร์บอน (ผงถ่าน) การทานอาหารที่มีเลือด เช่น เลือดหมู เลือดไก่ ในปริมาณมาก การทานอาหารที่มีสีเข้มปริมาณมาก เช่น บีทรูท องุ่นดำ ลูกเกดดำ ผลเบอรี่ต่างๆ ที่เป็นสีดำ ผักสีเขียวเข้มจัดต่างๆ รวมถึงเฉาก๊วย ชะเอม ขนมที่ทำจากแป้งผสมผงถ่าน เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยมักจะไม่มีอาการใดๆ นอกจากอุจจาระที่มีสีดำ และจะเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อหยุดทานสิ่งต่างๆ ที่เป็นสาเหตุ สีของอุจจาระก็จะกลับมาเป็นปกติ

                   สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ มักถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด เป็นมูก หรือเป็นเลือดมากกว่าถ่ายอุจจาระสีดำ และมักมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย ปวดท้องเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

                  การวินิจฉัยหาสาเหตุอาจต้องใช้วิธีหลายอย่างร่วมกัน ทั้งการตรวจอุจจาระ การตรวจเลือด รวมถึงการส่องกล้องกระเพาะอาหาร หรืออาจมีการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ร่วมด้วยค่ะ หากอาการของคุณแม่เพิ่งเป็นมาเพียง 2 สัปดาห์ และไม่มีอาการเรื้อรังอื่นๆ ก็อย่าเพิ่งกังวลว่าจะเป็นมะเร็งค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ