ประจำเดือนขาดไป 2 เดือน ตรวจ2 ครั้งแล้วไม่ท้อง มีตกขาว ปวดท้องน้อย ท้องหรือไม่

 สวัสดีค่ะ คุณ parin,

               สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มา ที่พบได้บ่อย ได้แก่

             1. การตั้งครรภ์ แต่หากไเ้ตรวจถึง 2 ครั้งแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็ไม่น่าใช่ค่ะ

             2. การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดหรือยาฉีดคุมกำเนิดมาเป็นระยะเวลานาน แต่หากไม่เคยใช้ ก็ไม่ใช่สาเหตุค่ะ

             3. ความเครียด การออกกำลังกายหักโหม พักผ่อน้อย อดอาหาร ทำให้มีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศของต่อมใต้สมองได้

             4.โรคอ้วน นอกจากนี้ยังพบในกรณีที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงเร็วเกินไปด้วย

            ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่พบน้อยกว่า เช่น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำหรือไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะที่รังไข่ทั้ง  2 ข้างมีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก เรียกว่า polycystic ovarian syndrome (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป เกิดการตีบตันของปากมดลูกหรือโพรงมดลูก จากการเกิดจากพังผืด เป็นเนื้องอกของต่อมใต้สมอง เป็นต้น

             สำหรับอาการตกขาว หากเป็นตกขาวสีขาวหรือใส ถือว่าเป็นปกติค่ะ ส่วนอาการปวดท้องน้อยและปวดรอบหน้าอก หากเป็นเพียงแค่เมื่อวานวันเดียว และขณะนี้หายไปแล้ว จึงไม่น่าเป็นอาการสำคัญที่บ่งถึงโรคอะไรค่ะ และไม่น่าใช่อาการของการตั้งครรภ์ เนื่องจากตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วไม่พบค่ะ อาจเป็นอาการนำก่อนที่ประจำเดือนจะมาก็ได้ค่ะ 

             แนะนำให้รอดูประจำเดือนไปก่อนค่ะ หากในเดือนพฤศจิกายน ประจำเดือนยังคงไม่มา ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ

              ส่วนตกขาว หากมีตกขาวที่ผิดปกติคือ มีสีที่แปลกไป เช่น เขียว เหลือง (แต่ไม่นับรวมตอนที่แห้งแล้ว) เทา หรือมีเลือดปน  หรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ หรือมีอาการแสบคันในช่องคลอด หรือมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุเช่นกันค่ะ