ถามแพทย์

  • ที่ประจำเดือนไม่มาเป็นเพราะยาคุมฉุกเฉินที่ทานเข้าไปหรือป่าวคะ ถึงทำให้ประจำเดือนเลื่อน

  •  TONIGHT
    สมาชิก

    ประจำเดือนครั้งล่าสุดวันที่21กค.60 มีครั้งละ5วัน หลังจากประจำเดือนหมดก็ได้มี พสพ.วันที่31 กค. โดยการหลั่งใน ตอนเช้าวันที่1 สค.60 ก็ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานครั้งเดียว2เม็ด หลังจากทานยาคุมฉุกเฉินไป1อาทิตย์ ก็มีเลือดออกเมื่อวันที่8 สค.60-10สค.60 หลังจากนั้น2วันก็มี พสพ.อีกครั้งในวันที่12 สค.60 และก็วันที่ 18 สค.60 แต่ครั้งนี้หลั่งนอกไม่ได้ทานยาทั้ง2ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่มีพสพ.อีกเลย และได้มีการซื้อที่ตรวจมาตรวจหลังจากวันที่18ได้1อาทิตย์ ก็ขึ้นขีดเดียว และวันที่30ก็ตรวจอีก2ครั้ง ก็ขึ้นขีดเดียว
    -หนูอยากจะทราบว่าเลือดที่ออกมาคือผลข้างเคียงของยาหรือประจำเดือนของเดือนสค.60
    -ที่ประจำเดือนไม่มาเป็นเพราะยาคุมฉุกเฉินที่ทานเข้าไปหรือป่าวคะ ถึงทำให้ประจำเดือนเลื่อน
    -มีอาการเมื่อยตัวนิดๆ อารมณ์แปรปวน ละปวดท้องน้อยนิดหน่อยในช่วยที่ถึงกำหนดประจำเดือนมาแต่ไม่มาค่ะ
    -หลังจากนี้หนูควรทำยังไงต่อ ขอคำแนะนำจากคุณหมอด้วยค่ะ (ขอบคุณค่ะ)

     สวัสดีค่ะคุณ  TONIGHT

    โดยปกติแล้วจะมีระยะของรอบประจำเดือนประมาณ 21 - 35 วัน และไม่เกิน 7 วัน ขึ้นกับแต่ละบุคคล หากมีประจำเดือนถี่ ห่าง หรือ นานเกินไป ถือว่าผิดปกติ

    อาการประจำเดือนมาผิดปกติหรือไม่สม่ำเสมอนั้นเป็นสิ่งที่พบได้ค่อนข้างบ่อย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาหรือมาไม่สม่ำเสมอนั้น มีหลายอย่าง เช่น ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศ (ฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน) พบได้ในภาวะ การใช้ยาคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง การรับประทานยาหรืออาหารบางชนิดที่อาจมีฮอร์โมนเพศหญิงผสมอยู่ ความผิดปกติของการตกไข่ (ovarian dysfunction) การออกกำลังกายหนัก หรือความเครียด ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้ การทำงานของไทรอยด์ผิดปกติ การตั้งครรภ์ เป็นต้น

        ในกรณี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประจำเดือนมาล่าช้าได้ค่ะ

        ส่วนโอกาสตั้งครรภ์หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอย่างถูกต้องมีไม่มากนักค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานอย่างถูกต้อง โดยรับประทาน 1 หรือ 2 เม็ด ขึ้นกับชนิดของยา และรับประทานภายหลังมีเพศสัมพันธ์โดยเร็วที่สุด และไม่เกิน 72 ชั่วโมง ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน เช่น ปวดท้อง ปวดหัว เจ็บเต้านม รู้สึกเพลีย ร่างกายอ่อนล้า ประจำเดือนมาผิดปกติ และควรมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง

    หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ