ถามแพทย์

  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ

  • กินยาคุมฉุกเฉิน และกินยาปรับฮอร์โมน มีเลือดออกนาน 10 วัน ต่อมามีเลือดออกอีก แล้วทานยาคุมกำเนิด จะท้องไหม

  •  kkate
    สมาชิก

    Dec 06, 2018 at 09:52 AM

            สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอยากเรียนสอบถามค่ะ คือหนูมีการกินยาคุมฉุกเฉิน ในวันที่ 8/11/61 และมีการกินยาฮอร์โมนตามปกติที่ต้องกินในวันที่ 11-20 ของทุกเดือน แต่ทีนี้หนูมีเลือดออกคล้ายประจำเดือนและมาเยอะเหมือนตอนเป็นประจำเดือนเลยค่ะ ในวันที่ 16-26/11/61 ซึ่งตามปกติประจำเดือนหนูจะมาประมาณวันที่ 23 ของทุกเดือนค่ะ ไม่ทราบว่าเลือดที่ออกนี้คือเลือดประจำเดือนไหมคะ หรือเป็นเอฟเฟกต์ของยา แต่หนูลองตรวจครรภ์ในวันที่ 28/11/61  ขึ้นขีดเดียวค่ะ ไม่ท้อง

                      ต่อมา หนูมี เพศสัมพันธ์ (ใส่ถุง) แต่แฟนไม่เสร็จ ค่ะ  ในวันที่ 30/11/61 และหนูมีเลือดออกมาเยอะปกติคล้ายประจำเดือนอีกในเย็นวันที่ 2/12/61 แต่มีถึงแค่วันที่ 5/12/61 ค่ะ เป็นเวลา 4 วัน ซึ่งปกติหนูจะมีประจำเดือนเป็นเวลา  7 วันทุกครั้ง อันนี้ผิดปกติไหมคะ และเรียกว่าเป็นเลือดประจำเดือนไหมคะ หนูเข้าใจว่ารอบนี้เป็นเลือดประจำเดือนจึงเริ่มกินยาคุมเมอซินลอน 28 ในวันที่ 3/12/61 ค่ะ หนูลองตรวจครรภ์ซ้ำอีกวันที่ 5/12/61 แต่ผลขึ้นขีดเดียวค่ะ 

     

    อยากสอบถามว่า

           1.หนูตั้งครรภ์ไหมคะ ?

           2.แล้วเลือดประจำเดือนของหนูจะเป็นช่วงเวลาไหนคะ ช่วงต้นเดือน 12 หรือว่าเป็นของรอบกลางเดือน 11 

            3.การกินยาคุมของหนูผิดพลาดไหมคะ สามารถเริ่มกินแล้วมีผลเมื่อไหร่คะ แต่ถ้าหากหนูกินผิดควรแก้ไขอย่างไร 

     

    ขอบพระคุณคุณหมอค่ะ 

    kkate  kkate
    สมาชิก

    Dec 06, 2018 at 11:47 AM

    T____T

    kkate  แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส
    แพทย์

    Dec 06, 2018 at 04:51 PM

    สวัสดีค่ะ คุณ kkate,

                         หากได้ทานยาคุมฉุกเฉิน ในวันที่ 8 พ.ย. และได้ทานยาปรับฮอร์โมนไปด้วยในวันที่ 11-20 พ.ย. เลือดที่ออกในวันที่ 16-26 พ.ย. จึงอาจเป็นเลือดที่เกิดจากผลของทั้งยาคุมฉุกเฉินและยาปรับฮอร์โมนได้ ซึ่งไม่ถือเป็นประจำเดือนปกติ

                         ส่วนการตรวจหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 28 พ.ย. แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 8 พ.ย.ค่ะ

                         สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 30 พ.ย. หากใส่ถุงยางอนามัยและไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มี 

                         สำหรับเลือดที่ออกมาในวันที่ 2-5 ธ.ค. อาจไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นประจำเดือนหรือไม่ เพราะไม่ได้มาในช่วงเวลาปกติที่ควรจะมา

                         สำหรับคำตอบ

                         1. หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ทั้งในวันที่ 28 พ.ย. และ 5 ธ.ค. แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ

                         2. เนื่องจากได้ทานทั้งยาคุมฉุกเฉินและยาปรับฮอร์โมน จึงไม่สามารถตอบได้ว่าประจำเดือนจริงๆ คือช่วงไหน

                         3. แม้จะไม่ใช่ประจำเดือนจริงๆ แต่เมื่อได้เริ่มทานยาคุมกำเนิดไปแล้ว ก็สามารถทานได้ เพียงแต่ในช่วง 7 วันแรกของการทานยา ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางอนามัยไปก่อน เนื่องจากต้องรอให้ยาคุมออกฤทธิ์ และเมื่อทานยาคุมกำเนิดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาปรับฮอร์โมนต่ออีกค่ะ


  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ