ถามแพทย์

  • เดือนมีนา มีการทานยาปรับฮอร์โมนที่ซื้อกินเอง ประจำเดือนยังไม่มาจนถึงปัจจุบัน ควรทำอย่างไร

  • ประมาณเดือนมีนาคม ได้ทานยาที่ช่วยในเรื่องการลดตกขาว ลดปวดท้องประจำเดือนเเละช่วยเรื่องเกี่ยวกับที่ทำให้หน้าอกใหญ่ไป เเต่กินหลังจากประจำเดือนของเดือนมีนามาเเล้ว เดือนเมษาสังเกตว่าประจำเดือนของตัวเองขาดไป หนูเลยลองทักไปถามคนขายยาที่หนูซื้อมาทาน คนขายบอกว่า ยานี้ทำให้ฮอร์โมร่างกายปรับเปลี่ยนทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อน อยากทราบว่าเป็นเรื่องจริงไหม ผ่านมาเดือนพฤษภาเเล้วประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ กังวลมาก ก่อนหน้านี้มีเพศสัมพันธ์กับเเฟน เเต่นำมาหลั่งนอก ที่ผ่านมามีเเค่อาการหน่วงท้องน้อยเเละจุก เป็นบางวันค่ะ .
    วชิรารัตน์ วงค์กองแก้ว  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ วชิรารัตน์ วงค์กองแก้ว

    การที่ประจำเดือนไม่มาหรือมาช้ากว่า 35 วันจากครั้งก่อนนั้น สาเหตุเกิดได้จากหลายอย่างค่ะ การได้รับฮอร์โมนเพศจากภายนอกเข้าไปนั้นเป็นสาเหตุทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนไปได้ แต่คงจะต้องทราบชื่อยาและปริมาณยาที่ทานให้แน่ชัดด้วย สาเหตุอื่นๆที่ยังเป็นไปได้คือเรื่องของการตั้งครรภ์ มีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ พังผืดที่มดลูก โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือความเครียด ความกังวลเป็นต้น

    ดังนั้นตอนนี้แนะนำว่าควรหยุดยาปรับฮอร์โมนตัวดังกล่าวมาก่อน และอาจนำยาพร้อมฉลากนี้ไปปรึกษาแพทย์ว่ามีความจำเป็นต้องใช้หรือไม่ และอาจตรวจยืนยันการตั้งครรภ์ร่วมไปด้วย จริงๆแล้วภาวะตกขาวและปวดประจำเดือนนั้น ควรหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อน และรักษาตามสาเหตุนั้นๆ การกินยาเข้าไปปรับฮอร์โมนเลยอาจจะไม่ได้รักษาและทำให้มีความผิดปกติอื่นๆมากขึ้น ตกขาวนั้นอาจะเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอดหรือปากมดลูกที่ควรได้รับยาฆ่าเชื้อที่ตรงกับโรคภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ ส่วนเรื่องปวดประจำเดือนนั้นสามารถรับประทานยาแก้ปวดประจำเดือนเพื่อบรรเทาอาการ และถ้ายังปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆเช่นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ ที่การรักษาอาจต้องใช้ยาคุมกำเนิดภายใต้การดูแลของแพทย์ต่อไป