มีตุ่มคล้ายสิว 2 ตุ่ม ต่อมาแตกออก เจ็บ แสบ ร้อน เป็นมา 3-4 วัน เกิดจากโรคอะไร รักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Suwaree,

                       หากตุ่มคล้ายสิว ซึ่งต่อมาแตกออกเป็นแผล มีอาการเจ็บ แสบ ร้อน ที่เป็นอยู่นั้น เป็นที่อวัยวะเพศหญิง ก็น่่าจะเป็นเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส หรืออาจขุ่นก็ได้ ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล มีอาการเจ็บ แสบและปวด หากเป็นครั้งแรก อาจเป็นอยู่ได้นาน 2-4 สัปดาห์ และอาจมีไข้ ปวดเมื่อยตัว ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตร่วมด้วยได้ ส่วนในกรณีที่เคยเป็นมาแล้ว ก็จะมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์อีกค่ะ ทั้งนี้ หากเป็นเริม ก็จะหายไปได้เอง แต่หากได้ทานยาต้านไวรัส ก็จะช่วยให้อาการหายเร็วขึ้น และลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำค่ะ

                      แต่หากเป็นที่ผิวหนังบริเวณอื่นๆ ไม่ใช่ที่อวัยวะเพศ ก็อาจเป็น

                      - งูสวัด โดยจะพบในผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ซึ่งเชื้อโรคอีสุกอีใสจะอยู่ในร่างกายเราไปตลอด เมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น ก็จะเกิดผื่นงูสวัดขึ้นมา โดยจะเป็นตุ่มน้ำขึ้นมาก่อน ต่อมาจะแตกออกกลายเป็นแผล มีอาการแสบร้อน เจ็บปวดร่วมค่ะ โดยผื่นของงูสวัดจะเป็นแค่เฉพาะที่ ไม่ได้เป็นทั่วตัวแบบอีสุกอีใส

                   - การโดนด้วงก้นกระดกกัด มักพบเป็นผื่นแดงเหมือนรอยไหม้เป็นแนวเส้นยาว ร่วมกับผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็กๆ  และมีอาการคัน ร่วมกับแสบร้อนคล้ายผื่นของโรคงูสวัดได้

                   - การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ผิวหนัง อาจทำให้เกิดเป็นตุ่มหนองขึ้นมา ปิวหนังบริเวณรอบๆ จะบวมแดงอักเสบ มักมีอาการไข้และปวดเมื่อยร่วมด้วย

                   แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง จะได้รับการรักษาให้ตรงกับโรคค่ะ  ในเบื้องต้นควรหลีกเลี่ยงการไปแกะหรือเกา ตุ่มและแผลที่เป็นอยู่ และยังไม่ควรใช้ยาใดๆ ไปทาค่ะ