แน่นท้อง ท้องอืด มา 2 เดือน ไปหาหมอ ได้ยากระเพาะ ไม่ดีขึ้น มีปวดท้องน้อย ควรไปตรวจภายในหรืออัลตราซาวด์ช่องท้อง

สวัสดีค่ะ คุณ gtttt,

                    อาการแน่นท้อง ท้องอืด ที่เป็นมา 2 เดือน กับอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนและปวดท้องน้อยในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน อาจเกิดจากสาเหตุเดียวกันหรือคนละสาเหตุก็ได้ ได้แก่

                    - การกลืนอากาศเข้าไปปริมาณมาก จากการอ้าปาก พูดคุย หัวเราะ หรือหายใจทางปากมากไป การกินหรือดื่มเร็วเกินไป เป็นต้น 

                 - การทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สหรือเครื่องดื่มที่มีแก๊สมากไป เช่น น้ำอัดลม ถั่ว เมล็ดธัญพืชต่างๆ หรือทานอาหารเป็นปริมาณมากเกินไป

                 - การทานยาบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก 

                 - การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ตั้งครรภ์

                 - โรคกระเพาะอาหารอักเสบ

                 - มีนิ่วในถุงน้ำดี

                 - ขาดน้ำย่อยอาหารบางชนิด เช่น น้ำย่อยย่อยโปรตีนนม แล้วได้ดื่มนม โยเกิร์ต เนย ชีส เข้าไป

                 - โรคลำไส้แปรปรวน

                 - การมีท้องผูก

                 - มีเนื้องอกหรือมะเร็งที่มดลูกหรือรังไข่

                 - เนื้องอกหรือมะเร้งในช่องท้อง 

                 ดังนั้น หากอาการเป็นมานานแล้ว และได้ทานยารักษาโรคกระเพาะอาหารแล้วไม่ดีขึ้น ก็ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมต่อไปค่ะ ทั้งนี้ การจะเลือกตรวจพิเศษอะไรนั้น แพทย์จะพิจารณาจากประวัติและการตรวจร่างกายถึงโรคที่น่าจะเป็นเสียก่อนค่ะ

                 หากแพทย์สงสัยว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีหรือไม่ ก็จะทำการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน หรือหากสงสัยว่าอาจมีเนื้องอกของมดลูกหรือรังไข่ ก็อาจตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่างค่ะ สำหรับสาเหตุอื่นๆ บางสาเหตุ อาจตรวจจากอัลตราซาวด์ไม่พบ เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งต้องอาศัยการส่องกล้อง เป็นต้น หรือหากเป็นลำไส้แปรปรวน ก็จะอาศัยจากประวัติอาการเป็นสำคัญค่ะ

                  ส่วนการตรวจภายในนั้น การตรวจก็อาจพอบอกได้คร่างๆ ว่ามีเนื้องอกของมดลูกและรังไข่หรือไม่ ซึ่งการตรวจด้วยอัลตราซาวด์อาจบอกได้แม่นยำกว่า แต่การตรวจภายในจะสามารถบอกได้ว่ามีมดลูกอักเสบหรือไม่ รวมถึงตรวจหาการติดเชื้อในช่องคลอดและมะเร็งปากมดลูกได้

                  ดังนั้น การตรวจและละชนิดก็จะเหมาะสมกับแต่ละโรคกันไป ซึ่งแนะนำควรเล่ารายละเอียดของอาการให้แพทย์ฟัง และเมื่อแพทย์ตรวจร่างกายแล้ว ก็จะเลือกวิธีการตรวจที่เหมาะสมให้ค่ะ