ชาที่ปลายเท้า มักเป็นเมื่อนอนราบ แต่หากเดิน นั่ง จะไม่ค่อยเป็น เป็นเบาหวานไหม

สวัสดีค่ะ คุณ guichai-dolls@hotmail.com,

                    อาการชาปลายเท้า เกิดจากเส้นประสาทที่อยู่บริเวณปลายเท้าเกิดการทำงานผิดปกติ โดยอาจเกิดจาก

                 - มีซีสต์บริเวณข้อเท้า ทำให้เส้นประสาทถูกดทับ

                 - เคยมีกระดูกบริเวณข้อเท้าและนิ้วเท้าหักมาก่อน

                 - โรคเบาหวาน จะทำให้เกิดเส้นประสาทเกิดความเสียหายโดยเฉพาะบริเวณมือและเท้า ทำให้มักมีอาการชาปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า

                  - โรคเรย์เนาด์ (Raynaud’s Disease) เป็นโรคของหลอดเลือดแดงเล็กที่อยู่ในนิ้วเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเจอกับความเย็นหรือมีความเครียด  ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว จึงเกิดอาการชา ผิวหนังซีดลง ซึ่งอาการจะเป็นอยู่นานประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมง แล้วจะหายไปได้เอง

                  - โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ แต่มักทำให้เกิดอาการปวดตามข้อเป็นหลัก รวมถึงข้อมือ ข้อนิ้วมือ 

                  - การดื่มแอลกอฮอล์มากไป ทำให้ปลายประสาทเสื่อมได้

                  - การติดเชื้อ HIV ซิฟิลิส โรคเรื้อน แต่ก็จะมีอาการอื่นๆ อีกหลายอย่าง

                  - โรคหลอดเลือดอักเสบ (Vasculitis)

                  -  ภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน

                  - โรคปลอกประสาทอักเสบ (Multiple Sclerosis)

                  -  ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น การทำเคมีบำบัด

                  - ขาดวิตามิน B-12

                    เป็นต้น

                   หากอาการชา ยังคงเป็นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบอายุรแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ สำหรับโรคเบาหวานนั้น มักจะต้องเป็นมานานก่อนที่จะทำให้เส้นประสาทเกิดความเสียหายและมีอาการชาตามมา ซึ่งก็น่าจะต้องมีอาการผิดปกติอื่นๆ ของโรคเบาหวานมาก่อนหน้านี้แล้ว เช่น หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย มดขึ้นปัสสาวะ อ่อนเพลียง่าย เป็นต้น แต่ทั้งนี้ หากยังไม่เคยตรวจว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ ก็ควรตรวจด้วยค่ะ