ถามแพทย์

  • หลังจากฉีดยาที่สะโพก มีอาการชาบริเวณผิวหนังนานกว่า 5 เดือน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร

  •  Niya Sreethep
    สมาชิก
    อาการที่เข้ารับการรักษาคือกรวยไตอักเสบ ไข้ขึ้น ร้าวตัว วันแรกก่อนแอดมิด พยาบาลได้แจ้งว่าจะฉีดยาแก้ปวด เข้าที่สะโพกค่ะ หลังจากฉีด ก็ชา ชาแบบชาที่ชั้นผิวหนังค่ะ เกาไม่รู้สึก แต่กดลงลึกๆแล้วเจ็บค่ะ กินวงกว้างลามลงมาถึงตำแหน่งต้นขา ห่างจากจุดฉีดประมาณหกเซ็นติเมตรและค่อยๆเลื่อนลงมามากขึ้น หลังจากวันนั้นผ่านไปสักพักเกิดอาการคันยิบๆ เกาไม่รู้สึกเหมือนเดิม แต่ก็หายคันไปเอง หลังจากนั้นจนวันนี้ ห้าเดือนกว่าได้แล้วค่ะ ยังไม่หายชา บริเวณที่ฉีดชาไม่มากเท่าตำแหน่งที่ต่ำลงมา เวลาเดินหรือวิ่งจะปวดหน่วงๆ ไปหาหมอที่รพเดิมก็ให้ทานวิตามิน ก็ยังไม่หาย แบบนี้จะเป็นอันตรายมั้ยคะ เกิดจากอะไร รักษายังไง ควรไปโรงพยาบาลอื่นมั้ยคะ
    Niya Sreethep  Niya Sreethep
    สมาชิก
    และกดยังเจ็บเหมือนเดิมนะคะ ลูบดูเหมือนจะบวมออกมาด้วยค่ะ
    Niya Sreethep  Niya Sreethep
    สมาชิก
    แต่ไม่แน่ใจว่าคืออาการบวมมั้ย หรือแต่สะโพกไขมันไม่เท่ากัน เพราะไม่ได้เยอะจนรู้สึกได้ชัดเจนค่ะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Niya Sreethep

    จากที่เล่ามา คิดว่า ช่วงระยะเวลาที่มีอาการชาเป็นค่อนข้างยาวนาน อาการนี้น่าจะไม่เกี่ยวกับการฉีดยาเข้าสะโพกนะคะ

    อาการชาตามบริเวณสะโพกและต้นขา อาจเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น ปลายประสาทอักเสบ, ปลายประสาทถูกกดทับ, ปลายประสาทได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น

    จากที่คุณ Niya Sreethep เล่ามา อาจเป็นลักษณะของปลายประสาทอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้รอดูอาการก่อนค่ะ

    หากมีอาการชาเพิ่มมากขึ้น มีอาการอ่อนแรง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจหาสาเหตุนะคะ