มีตุ่มขึ้นบริเวณอัณฑะ มีอาการคัน ควรรักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ เค อี เอ็น เจย์,

                   ตุ่มที่ขึ้นบริเวณผิวหนังของอัณฑะ และมีอาการคัน อาจเกิดจาก

                  - การแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ เช่น อาจแพ้ผงซักฟอก  หรือน้ำยาที่ใช้ซักกางเกงใน แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้แป้งหรือน้ำหอมที่นำมาทาบริเวณอวัยวะเพศภายนอก เป็นต้น 

                 - สังคัง หรือโรคกลาก เป็นโรคติดเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (dermatophyte) ที่ผิวหนัง ที่เกิดบริเวณขาหนีบ อวัยวะเพศ รอบทวารหนัก รวมถึงถุงอัณฑะได้ อาการเริ่มแรกมักจะเห็นเป็นตุ่มแดงๆ แล้วค่อยๆ ลามออกไปจนมีลักษณะเป็นวงสีแดงที่มีขอบเขตชัดเจน มักมีตุ่มน้ำใสเล็กๆ หรือขุยขาวๆ อยู่รอบวง ร่วมกับมีอาการคันมาก 

                  - ผื่นที่เกิดจากแมลงสัตว์กัดต่อย รวมถึงตัวโลน

                  - หากเกิดบริเวณโคนของอัณฑะ ใกล้ๆ กับบริเวณหัวหน่าว ซึ่งมีขนอยู่นั้น อาจเป็นรูขุมขนที่อักเสบ ซึ่งการอักเสบจะทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังนูนแดงเป็นตุ่มขึ้นมาได้ มักจะมีการอาการปวด เจ็บและคัน

                   ในเบื้องต้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้แพ้ต่างๆ ห้ามการแคะ แกะเกา หากคันมาก ควรทานแก้แพ้ เช่น  ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine) , chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น หลีกเลี่ยงการโกนขนหรือถอนขน หลังการอาบน้ำต้องเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศและอัณฑะให้แห้งสะอาด หากตุ่มไม่หายไป ยังคงมีอาการคัน หรือยังคงมีตุ่มเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ หรือตุ่มกลายเป็นตุ่มหนองหรือกลายเป็นแผล ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ