ถามแพทย์

  • ความเสี่ยงจากการทำออรัล

  •  pppete
    สมาชิก
    เมื่อวันที่1กรกฎาคมที่ผ่านมา ผมได้มีการทำออรัลเซ็กให้ผู้ชายคนนึง เป็นเวลาราวๆ1นาที โดยที่ไม่มีการหลั่ง และไม่ได้กลืนน้ำลาย และสุขภาพปากน่าจะเป็นปกติ ไม่มีแผลหรือเจ็บใดๆ มีความเสี่ยงต่อโรคไหมครับ แล้วสักประมาณ3สัปดาห์หลังจากนั้น ผมมีอาการลำไส้อักเสปแน่นในกระเพาะถ่ายเป็นน้ำอยู่3-4วัน(วันละ3-4ครั้ง)แต่ไม่หนัก ไปพบแพทย์แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นการทำงานของลำไส้ผิดปกติ มีอาการจุกเสียด. มีความเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไม่ครับ ขอรบกวนคุณหมอด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

     สวัสดีค่ะคุณ  pppete

    การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) มานานระยะหนึ่งอาจทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือ เอดส์ ซึ่งเป็นภาวะป่วยขั้นท้ายของที่ชื้อไวรัสเอชไอวีไปทำลายเม็ดเลือดขาว ทำให้ไม่สามารถต่อสู้กำจัดการติดเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย จึงเกิดอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ อย่างเกิดการติดเชื้อและการเจ็บป่วยด้วยโรคแทรกซ้อนตามมาจนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ โดยอาการที่เป็นสัญญาณสำคัญของเอดส์ เช่น มีไข้อยู่ตลอดเวลา เหนื่อยล้า อ่อนแรง น้ำหนักลด มีเหงื่อออกมากกลางคืน ท้องร่วงเรื้อรัง มีจุดสีขาว หรือแผลบริเวณลิ้นและปาก หรืออาจมีผื่นคันตามลำตัว แขนขา

    การติดต่อของเชื้อเอชไอวีหรือเชื้อเอดส์เกิดจากทางหลัก 3 อย่าง ได้แก่

    การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ไม่ว่าจะทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก

    การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ทารกในครรภ์สามารถติดเชื้อเอชไอวีได้จากทั้งภายในครรภ์มารดา จากการทำคลอด และจากการให้นมบุตร แต่หากมารดาผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาเอชไอวีอย่างถูกต้องต่อเนื่อง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทารกจะได้รับเชื้อไปด้วย

    การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ จะทำให้ได้รับเชื้อจากเลือดในอุปกรณ์นั้น มักเกิดจากการใช้ยาเสพติดร่วมกัน

    การทำออรัลเซ็กส์ (Oral Sex) โดยไม่มีอาการป้องกัน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อกามโรคหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆได้หลายชนิด เช่น โรคเริม โรคซิฟิลิส โรคหนองใน คลามัยเดีย เป็นต้น แต่ถือว่ามีโอกาสติดเชื้อเอชไววีน้อยมาก แต่หากไม่มีการหลั่งภายในปากด้วยแล้ว โอกาสในการติดเชื้อเอชไอวีจะน้อยลงไปอีก

    ส่วนอาการถ่ายเหลวหรือท้องเสีย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับอาหาร หรือที่มักเรียกกันว่าอาหารเป็นพิษ หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือปรสิตจากสาเหตุอื่น หรืออาจเกิดจากการแพ้อาหาร หรือเกิดจากภาวะลำไส้แปรปรวน การดูดซึมของลำไส้ผิดปกติ เป็นต้น อาจไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวีค่ะ

    แนะนำว่า หากไม่แน่ใจ หรือยังสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ที่รักาา เพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้องต่อไปค่ะ