ถามแพทย์

  • เป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะ กินยา Concor2.5 มิลลิกรัม มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกบางครั้ง เป็นอะไรไหม

  •  jaran3566
    สมาชิก

    สวัสดีครับ จะขอสอบถาม ผมอายุ34 ปี ตรวจเจอโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเมื่อ 6 ปีที่แล้ว จากนั้นได้ทานยา Concor 2.5 มิลลิกรัมหลังอาหารเช้าเม็ดเดียวมาตลอด ช่วงก่อนๆก็มีใจเต้นเร็วบ้างก็รีบไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก หลังๆมานี้สักสองสัปดาห์หลังจากออกกำลังกาย หรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จ รู้สึกว่าหัวใจจะเต้นผิดปกติคือที่สังเกตตัวเองการหายใจปกติ แต่หัวใจเวลาเต้นจะหายไปหนึ่งจังหวะเช่น ตึก...ตึก...ตึก...ตึก...ตึก กลายเป็น ตึก...ตึก...ตึก...........ตึก...ตึก  ช่วงจังหวะกลับมาเต้นไม่เจ็บหน้าอก แต่จะมีอาการคล้ายแน่นหน้าอก 1 ครั้งตามการเต้นหัวใจ ประมาณนี้ครับจะเป็นประมาณ 30-45 นาทีจึงหาย ไปตรวจ หมดได้ EKG , เทสวิ่งสายพาน ,เอ็คโค่ แล้วหมอก็บอกว่าปกติดี จะสอบถามว่าอาการแบบนี่เกิดจากอะไร ยาที่ทานมา 6 ปีมีผลข้างเคียงไหมครับ

    jaran3566  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ jaran3566

    หัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นความผิดปกติที่ทำให้มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจทำงานผิดปกติส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจมีการเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อาจพบอาการที่สามารถสังเกตได้ เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก หายใจหอบ เหงื่อออกมาก วิงเวียน หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม

    สาเหตุเช่น  โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ลิ้นหัวใจรั่ว ผนังหัวใจหนาผิดปกติ  หัวใจวาย แผลเป็นที่เนื้อเยื่อหัวใจจากหัวใจวายในอดีต หรือสาเหตุอื่นๆนอกเหนือจากหัวใจเองเช่น ความดันโลหิตสูง ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โรคเบาหวาน มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เกลือแร่ในเลือดไม่สมดุล เป็นต้น

    โดยยาที่รับประทานอยู่ เป็นยาที่ช่วยควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจค่ะ แนะนำการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอทุกวันภายใต้การดูแลของแพทย์และกลับไปติดตามอาการต่อเนื่อง อาการที่รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกนานๆครั้งดังกล่าวมา อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับโรคหัวใจที่เป็นอยู่โดยตรง ถ้ากินยาจนควบคุมอาการได้ดี ส่วนใหญ๋แล้วไม่ควรจะมีอาการกำเริบ หรือมีอาการจากตัวโรค

    แนะนำการดูแลตนเองเบื้องต้น โดยควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก หากมีอาการให้รีบนั่งพัก หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาเสพติด การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน และติดตามอาการกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ