ถามแพทย์

  • ปวดหัว ไปหมอบอกว่าเกิดจากมีฟันคุด รอผ่าตัดอยู่ ได้ทานยาพาราเซตามอลติดต่อกัน จะอันตรายไหม

  •  namo_mo
    สมาชิก
    กินยาพาราติดต่อกันหลายสัปดาห์ หรือเกิน 1 เดือน จะอันตรายไหม? คือมีอาการปวดหัว ไปหาหมอ เขาว่าน่าฟันคุด แล้วก็ได้วันนัดตรวจฟัน คือ 23 ธ.ค. ระหว่างนี้ พอปวดหัวก็ต้องกินพารา ไม่งั้นจะปวดมาก ก่อนหน้านี้กินพารามาแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนี้ระหว่างรอคิวตรวจ พอมีอาการปวด สามารถกินยาแก้ปวดต่อไปได้อีกไหม ปกติจะกินวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 2 เม็ด ตอนที่ปวดมากทนไม่ไหวจริงๆ ถึงจะกิน

    สวัสดีค่ะ คุณ namo_mo,

                      ยาพาราเซตามอล ซึ่งใช้เป็นยาแก้ปวดลดไข้นั้น ควรทานเฉพาะเมื่อมีอาการปวด หรือมีไข้เท่านั้นค่ะ 

                     ทั้งนี้ ขนาดยา paracetamol ที่ถือว่าเกินขนาด คือการทานในปริมาณมากกว่า 150 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมภายในครั้งเดียว ซึ่งจะทำให้เกิดพิษเฉียบพลัน คือเกิดตับวายเฉียบพลันได้ ส่วนการเกินขนาดแบบค่อยเป็นค่อยไป คือการทานมากกว่า  6 กรัม (หรือ 12 เม็ด) ใน 1 วัน หรือมากกว่า 4 กรัม (หรือ 8 เม็ด) ในช่วงที่มากกว่า 1 วัน 

                     ดังนั้น แม้ว่าการทานวันละ 1-2 ครั้ง วันละ 2 เม็ด หรือ 1-2 กรัมต่อวัน ก็ยังไม่ได้ถือว่าเกินขนาด แต่การทานติดต่อกันทุกวัน ย่อมทำให้ตับต้องทำงานหนัก ซึ่งในระยะยาว อาจส่งผลทำให้เกิดตับเรื้อรังได้ ดังนั้น หากมีอาการปวดหัวเรื้อรังอยู่ ซึ่งน่าจะเกิดจากฟันคุดที่ยังไม่ได้ผ่า ก็อาจทานยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ สลับไปกับยาพาราเซตามอล เพื่อไม่ให้ทานยาพาราเซตามอลติดต่อกันนานเกินไปค่ะ เช่น อาจทานยา ibuprofen, diclofenac เป็นต้น

                     หลังจากนี้ ก็ควรไปผ่าฟันคุดตามนัด หากผ่าแล้ว อาการปวดหัวยังไม่หายไป ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ต่อไป เช่น เป็นโรคปวดศีรษะไมเกรน ปวดศีรษะจากความเครียด มีเนื้องอกในสมอง เป็นต้น