ถามแพทย์

  • กินยาคุมกำเนิดมา 3 เดือน เดือนนี้มีเพศสัมพันธ์ หลั่งใน แล้วประจำเดือนมาน้อย จะท้องไหม

  •  nnupp
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูมีเรื่องสอบถามค่ะ หนูได้กินยาคุมกำเนิดต่อเนื่องมาเป็นเวลาสามเดือน ในเดือนที่สามได้มีอะไรกับเเฟนเเล้วแตกในค่ะ หลังจากเจ็ดวันก็ได้มีการตรวจครรภ์เเต่ไม่ท้องค่ะ เเต่ว่าพอถึงช่วงมีประจำเดือนมีประจำเดือนมาเเต่มาน้อยมากกว่าปกติ ซึ่งปกติที่เป็นก่อนหน้าจะมาค่อนข้างเยอะเป็นวลา4-5วัน เเต่ปัจจุบันมาน้อยเเละเป็น2-3วันเท่านั้น อย่างนี้คืออาการท้องรึป่าวคะ หรือเป็นปกติหรอคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ nnupp,

                         หากทานยาคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้อง โอกาสในการตั้งครรภ์ก็มีน้อยมากๆ และหากได้มีประจำเดือนมาแล้ว โดยมาในช่วงที่เว้นระยะไป 7 วัน (สำหรับชนิด 21 เม็ด) หรือมาในช่วงที่ทานยาคุมที่เป็นเม็ดแป้ง (สำหรับชนิด 28 เม็ด) ก็ถือว่าปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แม้จะมีปริมาณประจำเดือนมาน้อยก็ตาม 

                          ทั้งนี้ การที่ประจำเดือนมาปริมาณน้อย และมาจำนวนวันน้อย อาจเกิดจากผลของฮอร์โมนจากยา ที่ไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ประจำเดือนจึงออกมาปริมาณน้อยได้ โดยเฉพาะหากเป็นยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำ หรือเกิดจากการทานยาคุมต่อเนื่องนานๆ ค่ะ แต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไร

                           ส่วนการตรวจหาการตั้งครรภ์นั้น โดยปกติ ควรตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หากตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแค่ 7 วัน อาจตรวจไม่พบได้ อย่างไรก็ตาม หากมีประจำเดือนมาแล้ว ก็ไม่จำเป้นต้องตรวจซ้ำก็ได้ค่ะ