โหระพา ผักพื้นบ้านกับสรรพคุณทางการรักษา

โหระพา เป็นสมุนไพรใบมีกลิ่นหอมที่คุ้นหน้าคุ้นตาในหลากหลายเมนูอาหารไทย ประกอบกับประโยชน์และสรรพคุณทางยาที่ถูกกล่าวถึงทั้งด้านความงามและการบำรุงสุขภาพ เช่น รักษาสิว ช่วยคลายเครียด ต้านมะเร็ง และดีต่อสมอง ทำให้กลายเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ทั้งนิยมนำมากินเป็นอาหารและต้านโรค

โหระพา

ประโยชน์ด้านสุขภาพของโหระพาที่มีการกล่าวอ้างนั้นอาจเป็นเพราะพืชชนิดนี้มีสารอาหารที่มีคุณค่าหลายชนิด โดยอุดมด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเทียบเท่ากับผักโขมซึ่งเป็นผักที่ขึ้นชื่อว่ามีธาตุเหล็กสูง มีวิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม รวมถึงคุณสมบัติต้านแบคทีเรียที่ทำให้โหระพามักเป็นหนึ่งในส่วนผสมของสูตรรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งสรรพคุณบางข้อที่เชื่อกันก็มีงานวิจัยพิสูจน์ประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้เห็นอยู่บ้าง ดังนี้

รักษาสิว ลบเลือนรอยสิว หนึ่งในสูตรลับการรักษาสิวที่แพร่หลายในโลกออนไลน์คือการนำใบโหระพาสด 1 กำมือไปต้มในน้ำ 1 ถ้วย เป็นเวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นรอให้เย็นแล้วนำก้านสำลีจุ่มน้ำโหระพาเช็ดหน้าบริเวณที่เกิดสิว ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเช่นนี้วันละ 1 หรือ 2 ครั้ง ซึ่งจะได้ผลจริงหรือไม่นั้นคงต้องลองทำตามกันดู และเพื่อความปลอดภัยควรล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้น้ำโหระพาเช็ดหน้า เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองได้

สำหรับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์นั้น แม้จะมีงานวิจัยบางงานกล่าวว่าสารสกัดหรือน้ำมันหอมระเหยโหระพามีสรรพคุณต้านแบคทีเรีย แต่งานวิจัยที่นำมาทดลองทาบนผิวหน้าโดยตรงนั้นมีค่อนข้างน้อย มีเพียงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องชิ้นหนึ่งทดสอบประสิทธิภาพการรักษาสิวของน้ำมันหอมระเหยที่มีส่วนผสมหลักจากส้มและโหระพา โดยแบ่งอาสาสมัครเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 7 คน แต่ละกลุ่มใช้ผลิตภัณฑ์ทารักษาสิวต่างชนิดกัน ได้แก่ น้ำมันหอมระเหยต้านแบคทีเรีย น้ำมันหอมระเหยผสมกรดอะซิติก ยาผลัดเซลล์ผิว และยาผลัดเซลล์ผิวผสมกรดอะซิติก เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ผลลัพธ์พบว่าอาสาสมัครทุกกลุ่มมีความรุนแรงของสิวและรอยจากสิวลดลงในระดับดีถึงดีมาก อีกทั้งมีอาการระคายเคืองเพียงเล็กน้อยหลังจากการทา และอาการดังกล่าวหายไปภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวทดลองกับคนจำนวนค่อนข้างน้อยและเป็นการใช้โหระพากับส่วนผสมอื่น จึงไม่อาจยืนยันได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้เกิดจากโหระพา ส้ม หรือส่วนประกอบอื่น ๆ จำเป็นต้องมีการทดลองอย่างเฉพาะเจาะจงเพิ่มเติมต่อไป

คลายความวิตกกังวล เชื่อกันว่าโหระพามีฤทธิ์ช่วยคลายความวิตกกังวลและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีงานวิจัยหนึ่งพิสูจน์คุณสมบัติในด้านนี้ของน้ำมันหอมระเหยโหระพาเปรียบเทียบกับสารสกัดจากโหระพาในหนูทดลอง ผลการศึกษาชี้ว่าสารสกัดโหระพามีฤทธิ์ต้านความวิตกกังวลได้เทียบเท่ากับยารักษาภาวะวิตกกังวลอย่างไดอะซีแพม แต่ในด้านสรรพคุณการช่วยให้นอนหลับและผ่อนคลายนั้น การใช้ในรูปแบบน้ำมันหอมระเหยจะให้ผลดีกว่า ผู้วิจัยคาดว่าผลลัพธ์ดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากสารฟีนอลและเทอร์ปีนอยด์ที่มีอยู่ในโหระพานั่นเอง งานวิจัยนี้จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่อาจต่อยอดให้เกิดการศึกษาในด้านนี้กับคนโดยตรงต่อไป เพื่อระบุประสิทธิภาพและความปลอดภัยของโหระพาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ต้านมะเร็ง คุณประโยชน์ข้อนี้ของโหระพามีการบอกต่อกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์บางงานกล่าวว่าโหระพามีฤทธิ์ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง ดังงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากโหระพาและสะระแหน่ซึ่งเป็นพืชในตระกูลเดียวกันมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องสารพันธุกรรมจากการเกิดความเสียหายและมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งเต้านมในหลอดทดลอง นอกจากนี้ งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ทดลองกับหนู พบว่าสารสกัดจากใบของโหระพาช่วยต้านการเกิดภาวะเป็นพิษต่อไขกระดูกและระบบเลือด ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับสารเคมีและอาจมีประสิทธิภาพเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาเคมีบำบัดได้

แม้ผลการศึกษาดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากโหระพาอาจมีประโยชน์ในการต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็ง แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถนำมากล่าวสรุปได้ เพราะล้วนไม่ใช่การทดลองกับคนโดยตรง จึงควรรอให้มีการพิสูจน์ที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้ในคนจำนวนมากต่อไป

ดีต่อสมองและความจำ โหระพาเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่ถูกกล่าวถึงสรรพคุณบำรุงสมองและความทรงจำ โดยเฉพาะการกินน้ำกระชายปั่นกับโหระพาที่ได้รับความนิยม ทว่ายังไม่มีการพิสูจน์ว่าสูตรยาดังกล่าวใช้ได้ผลจริงหรือไม่ มีเพียงการศึกษาที่ทดลองให้หนูที่สมองได้รับความเสียหายกินสารสกัดจากใบโหระพา ผลปรากฏว่าสารสกัดดังกล่าวช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองโดยลดการตายของเซลล์สมองบริเวณสมองใหญ่ ลดกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระที่ส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองเสียหาย และลดความบกพร่องของความจำระยะสั้นของหนูได้

เช่นเดียวกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ให้หนูที่ถูกช็อกไฟฟ้ากินสารสกัดจากใบโหระพาทันทีและกินอีกครั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากถูกช็อก ผลพบว่าหนูมีความทรงจำฟื้นฟูขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยคาดว่าอาจเป็นผลมาจากการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ แทนนิน และเทอร์ปีนอยด์ในโหระพา จากผลการศึกษาเหล่านี้จึงเป็นไปได้ว่าโหระพาอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบำรุงสุขภาพสมองและความจำ หากในอนาคตมีการพิสูจน์กับคนโดยตรงและให้ผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกันนี้

ความปลอดภัยของการใช้โหระพาเพื่อการรักษาโรค

การนำโหระพามาปรุงอาหารและรับประทานนั้นค่อนข้างปลอดภัย ส่วนการรับประทานเพื่อสรรพคุณทางยาในปริมาณมากหรือในรูปแบบอาหารเสริมเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็อาจปลอดภัยเช่นกัน แต่ควรระมัดระวัง เพราะบางรายอาจมีระดับน้ำตาลลดต่ำลงหลังจากการรับประทานโหระพา อีกทั้งไม่ควรรับประทานน้ำมันสกัดจากโหระพาหรือส่วนลำต้นของโหระพาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากประกอบด้วยสารเอสตราโกล (Estragole) ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งตับได้

นอกจากนี้ บุคคลในกลุ่มต่อไปนี้ควรระมัดระวังการใช้โหระพาเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาโรคเป็นพิเศษ

  • เด็ก หญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่กำลังให้นมบุตรรับประทานโหระพาในปริมาณปกติที่พบได้จากอาหารทั่วไปได้อย่างปลอดภัย แต่การใช้ในปริมาณมากอาจก่อให้เกิดอันตราย เพราะมีการทดลองในสัตว์ชี้ว่าโหระพาเป็นพืชที่ประกอบด้วยสารเอสตราโกลซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งตับได้
  • ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติอาจเสี่ยงมีเลือดออกมากยิ่งขึ้นเมื่อรับประทานน้ำมันโหระพาหรือสารสกัดจากโหระพา เนื่องจากมีฤทธิ์ชะลอการแข็งตัวของเลือด
  • โหระพาอาจมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต เพื่อความปลอดภัย ผู้มีความดันโลหิตต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะอาจส่งผลให้มีความดันลดต่ำเกินไปจนเป็นอันตรายได้
  • ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดใช้โหระพาหรืออาหารเสริมโหระพาในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้มีเลือดออกมากในระหว่างการผ่าตัด