เลเซอร์ขนรักแร้ ข้อควรรู้และขั้นตอนการรักษา

ในปัจจุบัน เลเซอร์ขนรักแร้ถือเป็นวิธีกำจัดขนรักแร้ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากการกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีเลเซอร์เป็นวิธีที่ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างยืนยาวกว่าการกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีอื่น เช่น การใช้ใบมีดโกน หรือการแว็กซ์

การเลเซอร์ขนรักแร้เป็นวิธีการกำจัดขนรักแร้ด้วยการส่งพลังงานแสงไปที่รักแร้ เพื่อให้สารสร้างเม็ดสีหรือเมลานิน (Melanin) ในรูขุมขนดูดซึมพลังงานแสงเข้าไป จากนั้นพลังงานแสงที่ถูกดูดซึมเข้าไปก็จะเปลี่ยนเป็นความร้อนและทำลายรูขุมขนด้านใน เพื่อยับยั้งหรือชะลอการเกิดใหม่ของขนรักแร้

เลเซอร์ขนรักแร้ ข้อควรรู้และขั้นตอนการรักษา

อย่างไรก็ตาม แม้การเลเซอร์ขนรักแร้จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนรักแร้ แต่ก็เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่น ๆ รวมถึงยังมีข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังการรักษา และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเลเซอร์ขนรักแร้ ซึ่งทุกคนสามารถศึกษาได้จากในบทความนี้

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลเซอร์ขนรักแร้

การเลเซอร์ขนรักแร้เป็นวิธีที่คนทั่วไปสามารถทำได้ แต่อาจมีข้อจำกัดที่การเลเซอร์อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีรอยสักบริเวณนี้

นอกจากนี้ แม้วิธีนี้จะให้ผลการรักษาที่ค่อนข้างยืนยาว แต่ผู้เข้ารับการกำจัดขนรักแร้อาจจะต้องมารับการเลเซอร์หลายครั้งหรือประมาณ 3–4 ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน อีกทั้งยังต้องมารับการรักษาด้วยเลเซอร์อยู่เป็นระยะ ๆ เนื่องจากแม้การเลเซอร์จะให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวแต่ก็ไม่สามารถกำจัดขนอย่างถาวรได้

นอกจากนี้ การเลเซอร์ขนรักแร้ก็ยังอาจส่งผลให้ผู้เข้ารับการรักษาบางคนเกิดอาการข้างเคียงได้ โดยอาการที่อาจพบได้ก็เช่น

  • ผิวหนังเกิดการระคายเคือง เกิดรอยแดง บวม หรือในบางคนอาจเกิดแผลพุพองได้ แต่พบได้น้อย
  • สีผิวบริเวณที่เลเซอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ ทั้งแบบชั่วคราวและถาวร โดยบางคนอาจพบว่าผิวหนังมีสีเข้มขึ้น ขณะที่บางคนอาจพบว่าผิวหนังมีสีจางลง
  • ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น

ขั้นตอนการเลเซอร์ขนรักแร้

ก่อนการเลเซอร์ขนรักแร้ แพทย์ผู้รักษาจะสอบถามประวัติทางการแพทย์ของผู้เข้ารับการรักษาก่อน ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว ยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่าง ๆ ที่กำลังใช้ หรือประวัติการเกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ เพื่อดูว่าผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับการเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ได้หรือไม่

จากนั้น หากแพทย์เห็นว่าผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับการเลเซอร์ได้ แพทย์จะแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับการเลเซอร์ เพื่อเป็นการเตรียมตัวผู้เข้ารับการรักษาให้พร้อม ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงแสงแดด อย่างน้อย 6 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการเลเซอร์ หรือควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก
  • งดการถอนและการแว็กซ์ขนรักแร้เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ก่อนการเลเซอร์ เนื่องจากการรักษาด้วยการเลเซอร์ แพทย์จำเป็นต้องส่งพลังงานแสงไปที่รากขนรักแร้ด้วย
  • ผู้ที่กำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน เพื่อให้แพทย์แนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ส่งผลให้ผิวหนังแทนหรือคล้ำลง
  • ก่อนเข้ารับการรักษา 1 วัน ผู้เข้ารับการรักษาควรตัดหรือโกนขนรักแร้ก่อน

เมื่อถึงวันรักษา แพทย์ผู้รักษาจะทำความสะอาดบริเวณรักแร้ ทายาชา และอาจแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาสวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา จากนั้น แพทย์จะใช้อุปกรณ์ส่งพลังงานแสงบริเวณรักแร้ โดยในขั้นตอนนี้ ผู้เข้ารับการรักษาอาจรู้สึกระคายเคืองรักแร้ คล้ายกับถูกเข็มขนาดเล็กทิ่มเล็กน้อย

หลังจากเสร็จสิ้นการรักษา แพทย์จะให้ผู้เข้ารับการรักษาประคบเย็นที่รักแร้ หรืออาจทายาต้านการอักเสบร่วมด้วยเพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง โดยในระหว่าง 2–3 ชั่วโมงนี้ ผู้เข้ารับการรักษาอาจพบอาการผิวหนังบวมแดงได้บ้าง

จากนั้น แพทย์จะนัดหมายวันเวลาที่ผู้เข้ารับการรักษาต้องมารับการเลเซอร์ขนรักแร้ในครั้งถัดไป รวมถึงแนะนำการปฏิบัติตัวบางอย่างในระหว่างนี้ เช่น หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด หลีกเลี่ยงการอาบแดด และควรใช้ครีมกันแดดเสมอเมื่อต้องออกจากบ้าน

ทั้งนี้ ภายหลังการรักษา ขนรักแร้ที่ถูกเลเซอร์ไปอาจไม่หลุดร่วงในทันที แต่จะค่อย ๆ หลุดออกไปเองในระยะเวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ และอย่างที่ได้กล่าวไปว่า การเลเซอร์ขนรักแร้เป็นวิธีรักษาที่ผู้เข้ารับการรักษาต้องไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลการรักษาที่เห็นผล