รู้จักกับสาเหตุและวิธีรับมือกับปัญหาถุงใต้ตา

ถุงใต้ตาเป็นสัญญาณหนึ่งที่พบได้บ่อยเมื่อเริ่มมีอายุเพิ่มขึ้น โดยหลายคนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อาจรู้สึกเสียความมั่นใจไป อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหานี้มักไม่ได้ส่งผลเสียหรือเป็นสัญญาณอันตรายใด ๆ ทางร่างกาย

ถุงใต้ตาสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอ โรคภูมิแพ้ การระคายเคือง การรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดอาการบวม ไปจนถึงสาเหตุสำคัญอย่างอายุที่เพิ่มขึ้น เพราะเมื่ออายุมากขึ้น เนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้อบริเวณใต้ดวงตาจะอ่อนแอลง ส่งผลให้ไขมันและของเหลวที่อยู่โดยรอบเคลื่อนตัวมาอยู่รวมกันบริเวณเปลือกตาล่างจนมีลักษณะบวมอย่างเห็นได้ชัด

รู้จักกับสาเหตุและวิธีรับมือกับปัญหาถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา เกิดจากอะไรและมีอันตรายหรือไม่

โดยส่วนใหญ่ ปัญหาถุงใต้ตามักเป็นผลมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ถือเป็นอันตรายใด ๆ อย่างไรก็ตาม ก็มีบางกรณีเช่นกันที่ปัญหาถุงใต้ตามีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ เช่น 

  • อาการตาบวม (Periorbital Puffiness)
  • อาการแพ้ ซึ่งจะทำให้มีอาการคันร่วมด้วย
  • ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ

ดังนั้น หากเริ่มรู้สึกว่าปัญหาถุงใต้ตาเริ่มส่งผลกระทบต่อการมองเห็น หรือมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น รู้สึกระคายเคือง คัน บวม แดง ปวดศีรษะ มีผื่นขึ้น หรืออวัยวะส่วนอื่นของร่างกายเกิดความผิดปกติบางอย่างร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่เหมาะสม

วิธีรักษาถุงใต้ตา ทำได้อย่างไรบ้าง

ในเบื้องต้น วิธีที่อาจช่วยลดถุงใต้ตาที่กวนใจมีดังนี้

ลดปริมาณการบริโภคเกลือ

การรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดถุงใต้ตาได้ เพราะเมื่อรับประทานโซเดียมเข้าไปมาก ๆ อาจทำให้เกิดอาการคั่งของของเหลวภายในร่างกายได้ โดยเฉพาะบริเวณใต้ดวงตา จนเป็นเหตุให้กลายเป็นถุงใต้ตานั่นเอง หรือถ้าหากเลี่ยงการรับประทานเกลือไม่ได้ก็ควรดื่มน้ำเปล่าตามมาก ๆ เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่มีโซเดียมคั่งค้าง

ควบคุมอาการแพ้

สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อย่างภูมิแพ้อากาศ ถุงใต้ตามักเกิดขึ้นเมื่อมีอาการแพ้ ดังนั้นทางที่ดีควรควบคุมอาการแพ้อย่างเคร่งครัด ซึ่งการรับประทานยาแก้แพ้ที่มีขายทั่วไปเมื่ออาการกำเริบนั้นสามารถช่วยลดอาการแพ้ ลดน้ำมูก และทำให้ถุงใต้ตาลดลงได้

หลีกเลี่ยงท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ

โดยให้หาหมอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้น เพราะการนอนในท่านอนตะแคงและนอนคว่ำอาจส่งผลให้ของเหลวบริเวณใกล้ดวงตาไหลมาอยู่ที่ใต้ดวงตาตามแรงโน้มถ่วงจนกลายเป็นถุงใต้ตา

ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนเข้านอน

การล้างเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนนอน นอกจากจะช่วยลดสิวแล้วยังช่วยลดการเกิดถุงใต้ตาได้ เพราะการไม่ล้างเครื่องสำอางบริเวณใต้ตาให้สะอาดจะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังใต้ดวงตาและบวมออกมาเป็นถุงใต้ตาได้

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ควรนอนหลับให้ได้ประมาณ 7–9 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากการอดนอนอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาถุงใต้ตาและใต้ตาคล้ำได้

ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้อาจดึงน้ำในร่างกายออกมาจากผิวและคั่งอยู่บริเวณผิวที่บอบบางอย่างใต้ดวงตา หรือหากเลี่ยงไม่ได้ ควรดื่มน้ำก่อนนอนและอาจใช้ครีมบำรุงบริเวณใต้ดวงตา

ป้องกันผิวหนังจากรังสียูวี

รังสียูวีเป็นตัวการของผิวที่ร่วงโรยก่อนวัย อีกทั้งยังก่อให้เกิดริ้วรอย และถุงใต้ตาได้อีกด้วย ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วถึง สวมแว่นกันแดด สวมหมวก หรือจะกางร่มก็เป็นการป้องกันผิวบริเวณใต้ตาจากรังสีอันตรายนี้ได้

ลดหรือเลิกสูบบุหรี่

ควรลดหรือเลิกสูบบุหรี่เนื่องจากสารเคมีอันตรายในบุหรี่สามารถทำลายสุขภาพภายใน และภายนอกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผิวพรรณ คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำจะมีผิวที่แห้งและอ่อนแอ จึงไม่แปลกหากจะมีถุงใต้ตาเกิดขึ้นง่ายกว่าปกติ 

ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม

หากถุงใต้ตามีสาเหตุมาจากอาการบวม การประคบเย็นอาจช่วยได้ โดยอาจใช้ช้อนที่นำไปแช่เย็น ถุงชาที่เย็นแล้ว หรือใช้แตงกวาหั่นแว่น มาประคบเพื่อลดความร้อนและอาการบวมที่ใต้ตาลง แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดด้วย หากสิ่งที่นำมาประคบไม่สะอาด อาจทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองและบวมยิ่งกว่าเดิม

บำรุงด้วยมาส์กหรือครีมบำรุง

มีครีมบำรุงและมาส์กที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลดปริมาณถุงใต้ตาโดยเฉพาะวางขายมากมายในท้องตลาด แต่ก็ควรระมัดระวังในการเลือกซื้อเพราะครีมบางชนิดมีสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใต้ดวงตาได้ หากใช้โดยไม่ทดสอบการแพ้ อาจจะทำให้ใต้ดวงตายิ่งมีถุงใต้ตามากยิ่งขึ้น

นอกจากวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองแล้ว ยังอาจเลือกใช้วิธีการรักษาทางการแพทย์อย่างเช่น การผ่าตัดบริเวณเปลือกตา (Blepharoplasty) ซึ่งจะเป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อนำเอาถุงใต้ดวงตาออกและตกแต่งดวงตาใหม่ โดยวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาและตกแต่งเปลือกตาที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นของผู้ป่วยบางรายได้ 

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดีก่อน เพราะการผ่าตัดรักษาถุงใต้ตาอาจก่อให้เกิดอาการติดเชื้อ ตาแห้ง หรือส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ท่อน้ำตา หรือทำให้รูปร่างเปลือกตาผิดแปลกไปจากปกติได้