ลักษณะอุจจาระทารกท้องเสีย วิธีสังเกตและรับมือที่คุณแม่ควรรู้

ลักษณะอุจจาระทารกท้องเสียอาจสังเกตได้ยาก เนื่องจากอุจจาระของทารกที่ท้องเสียอาจคล้ายคลึงกับอุจจาระธรรมดา แต่อุจจาระทารกท้องเสียอาจมีความแตกต่างเล็กน้อย เช่น ทารกถ่ายเหลวกว่าปกติ ทารกถ่ายมากกว่าปกติ โดยการรู้จักลักษณะอุจจาระทารกท้องเสียอาจช่วยให้คุณแม่ดูแลอาการลูกน้อยได้เร็วยิ่งขึ้น 

อาการท้องเสียของทารกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แพ้อาหารบางชนิด คุณแม่ใช้ยาที่ส่งผลต่อนมแม่ที่ลูกกินและกระตุ้นให้เกิดท้องเสีย หรืออาการคันเหงือกที่ทำให้ทารกหยิบสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าปาก โดยคุณแม่สามารถรับมือกับอาการท้องเสียของทารกได้เอง แต่ในบางกรณี เช่น ท้องเสียรุนแรง มีภาวะขาดน้ำ หรือมีอุจจาระสีแดง ดำ หรือขาว คุณแม่ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายได้

ลักษณะอุจจาระทารกท้องเสีย

วิธีสังเกตลักษณะอุจจาระทารกท้องเสีย

อุจจาระปกติของทารกอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของนมที่ทารกกิน สำหรับทารกที่ดื่มนมแม่ อุจจาระของทารกอาจมีลักษณะนิ่ม มีสีเหลือง และมีการขับถ่ายหลายรอบต่อวัน แต่สำหรับทารกที่ดื่มนมผงหรือเริ่มกินอาหารตามวัยเด็กทารก (Solid foods) อาจมีอุจจาระเป็นก้อนมากขึ้นและมีสีน้ำตาล ดังนั้น จึงอาจสังเกตได้ยากว่าเป็นอุจจาระทารกท้องเสียหรือเป็นอุจจาระปกติ

อย่างไรก็ตาม ลักษณะอุจจาระทารกท้องเสียอาจสังเกตได้จากลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

  • อุจจาระเหลวหรือมีลักษณะเป็นน้ำมากกว่าปกติ
  • อุจจาระมีปริมาณมาก จนอาจล้นออกมาจากผ้าอ้อม
  • ขับถ่ายอุจจาระบ่อยกว่าปกติ
  • อุจจาระเป็นสีเขียวหรือมีสีเข้มมากกว่าปกติ
  • อุจจาระมีกลิ่นเหม็นมาก
  • อุจจาระมีมูกหรือเลือดปน

วิธีรับมือเมื่อทารกท้องเสียอย่างเหมาะสม

เมื่อสังเกตเห็นลักษณะอุจจาระทารกท้องเสีย คุณแม่อาจรับมือด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ลูกน้อยอาการดีขึ้นและป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำ เช่น

  • ให้นมลูกเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียออกจากร่างกายจากอาการท้องเสีย แต่สำหรับทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน คุณแม่ควรให้ดื่มแต่นมแม่เท่านั้น ไม่ควรให้ลูกดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำชนิดอื่น ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • หากลูกน้อยเริ่มกินอาหารตามวัยเด็กทารกแล้ว ควรให้อาหารที่ช่วยให้อาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวดีขึ้น เช่น เนื้อไก่ กล้วย และขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้อาการท้องเสียของลูกแย่ลง เช่น นมวัว น้ำผลไม้ น้ำหวาน อาหารทอด อาหารรสเผ็ด หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ต่าง ๆ สำหรับผู้ใหญ่
  • ควรให้ลูกน้อยดื่มเกลือแร่ ORS สำหรับเด็กหรือเครื่องดื่มจากธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสารเกลือแร่ต่าง ๆ เช่น น้ำมะพร้าว โดยให้ดื่มทุกครั้งหลังจากทารกขับถ่ายหรืออาเจียนเพื่อทดแทนของเหลวและเกลือแร่ที่สูญเสียไป อีกทั้งยังช่วยรักษาและป้องกันภาวะขาดน้ำได้อีกด้วย 
  • เปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ และพยายามทำให้ผ้าอ้อมแห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดผื่นผ้าอ้อม 
  • หลีกเลี่ยงการให้ยาแก้ท้องเสียที่ซื้อตามร้านขายยาแก่ทารก เพราะอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อชีวิต

อย่างไรก็ตาม หากทารกมีอายุน้อยกว่า 6 เดือนและอุจจาระมีลักษณะอุจจาระทารกท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง มีภาวะขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะสีเข้มและน้อยกว่าปกติ มีอาการหงุดหงิด ปากแห้ง หรือทารกร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา รวมทั้งมีสัญญาณของอาการผิดปกติ เช่น ไข้สูง ง่วงซึม อาเจียนอย่างรุนแรง และอุจจาระมีสีดำ แดง หรือขาว ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม

หากอาการท้องเสียของทารกเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะแก่ลูกน้อย นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจให้สารน้ำทางหลอดเลือด เพื่อรักษาอาการท้องเสียอย่างรุนแรงและภาวะขาดน้ำของลูกน้อยให้ดีขึ้น