พุงสลายได้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม

บ่อยครั้งที่พุงทำลายบุคลิกภาพและสุขภาพของเรา ในแต่ละวันเราสะสมไขมันหน้าท้องจากการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย และความเครียด แต่หากเราตั้งใจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตก็อาจช่วยให้พุงสลายหายไปได้สมใจ 

พุงที่เราเห็นบริเวณหน้าท้องนั้น ประกอบไปด้วยไขมัน 2 ประเภท ได้แก่ ไขมันในช่องท้อง เป็นไขมันที่สะสมอยู่ภายในช่องท้องใกล้กับกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และตับ อีกประเภท คือ ไขมันใต้ผิวหนัง สามารถพบได้ตามชั้นผิวหนังทั่วร่างกายอย่างหน้าท้อง ขา หรือก้น โดยไขมันในช่องท้องอาจเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าไขมันใต้ผิวหนัง ในบทความนี้ได้รวบรวมเคล็ดลับสลายพุงมาฝาก มาจัดการกับพุงก่อนที่พุงจะจัดการสุขภาพของเรากัน

พุง

เคล็ดลับลดพุงง่าย ๆ ด้วยตนเอง

นอกจากพุงหนา ๆ จะเป็นปัญหาด้านบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ ภาวะหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานประเภท 2 เป็นต้น ทุกคนจึงควรลดพุงเพื่อสุขภาพตนเองที่ดีขึ้น โดยอาจเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันดังต่อไปนี้

ปรับเปลี่ยนโภชนาด้านอาหาร

การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและลดพุงที่เห็นผล โดยเฉพาะหากรับประทานผักและผลไม้ ลีนโปรตีนซึ่งเป็นโปรตีนที่มีไขมันต่ำ อย่างอกไก่ ไข่ขาว ปลา เนื้อหมูสันใน หรือเนื้อวัวที่ไม่มีไขมันแทรก รวมไปถึงอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งให้แร่ธาตุ วิตามิน และใยอาหารแก่ร่างกายมากกว่า เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท ถั่วต่าง ๆ เป็นต้น อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงเครื่องดื่มหรือของหวานที่เติมน้ำตาลลงไปด้วย  

ออกกำลังเป็นประจำ

ผู้ที่ต้องการลดพุงควรออกกำลังกายอย่างพอเหมาะและเป็นประจำ โดยอาจเลือกออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ร่วมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดมากขึ้น เช่น เดินเร็วอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หากนับเป็นก้าวควรอยู่ที่ประมาณ 10,000 ก้าวต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น วิ่งหรือว่ายน้ำอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ สำหรับใครที่มีจุดประสงค์เพื่อการลดน้ำหนักอาจจะต้องออกกำลังอย่างสม่ำเสมอให้มากขึ้น

จัดการความเครียด

โดยปกติเมื่อตกอยู่ในสภาวะเครียด ร่างกายคนเราจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา เมื่อระดับฮอร์โมนนี้เพิ่มสูงมากอาจทำให้เรารู้สึกอยากอาหารและหิวบ่อยกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและมีพุงในที่สุด ดังนั้น วิธีจัดการกับความเครียดก็อาจช่วยลดความอยากอาหารและลดพุงได้ อย่างการนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก ทำงานอดิเรก หรือเล่นโยคะ      

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

หลายคนอาจไม่ทราบว่าการพักผ่อนน้อยหรืออดหลับอดนอนอาจเสี่ยงต่อโรคอ้วน มีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น และเกิดความอยากอาหารมากขึ้นด้วย การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพไม่แพ้การออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร      

ลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ หรือโซดาที่มีส่วนผสมของน้ำตาลล้วนแล้วแต่มีจำนวนแคลอรี่สูง ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอาจได้รับปริมาณแคลอรี่มากเกินไป ซึ่งร่างกายจะสะสมพลังงานส่วนเกินเหล่านั้นไว้ในรูปของไขมันบริเวณหน้าท้อง ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หากใครต้องการลดน้ำหนักจึงควรงดดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเช่นกัน 

หยุดสูบบุหรี่

ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำอาจเสี่ยงมีไขมันหน้าท้องสะสมเพิ่มมากขึ้น และเกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงอื่น ๆ ตามมา การเลิกสูบบุหรี่จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของการมีไขมันหน้าท้องส่วนเกิน และช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้ 

นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น การดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดให้เพียงพอก็อาจช่วยลดพุงได้เช่นกัน โดยจะช่วยกระตุ้นอัตราการเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วขึ้นและกินอาหารได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม คำแนะนำเหล่านี้ควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการโดยตรง เพื่อลดไขมันด้วยวิธีที่ถูกต้องและปลอดภัย