บอลซาลาไซด์

บอลซาลาไซด์

Balsalazide (บอลซาลาไซด์) เป็นยาในกลุ่มอะมิโนซาลิไซเลต (Aminosalicylates) ออกฤทธิ์ลดอาการบวมในลำไส้ใหญ่ ใช้รักษาและบรรเทาอาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เช่น ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด ปวดท้อง เป็นต้น นอกจากนี้ อาจนำมาใช้รักษาอาการอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

เกี่ยวกับยา Balsalazide

กลุ่มยา อะมิโนซาลิไซเลต
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ Category B จากการศึกษาในสัตว์ ไม่พบความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติ
ของตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรืออาจพบผลไม่พึงประสงค์ในสัตว์
แต่ยังไม่พบความเสี่ยงในมนุษย์เมื่อใช้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์
รวมทั้งไม่มีหลักฐานทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงเมื่อใช้ในช่วง
หลังเดือนที่สามเป็นต้นไปกลุ่มยา ยารักษาโรคเบาหวาน

1980 Balsalazide rs
คำเตือนในการใช้ยา Balsalazide

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงแพ้ยาและสารอื่น ๆ เช่น ยาในกลุ่มอะมิโนซาลิไซเลต ยาในกลุ่มซาลิไซเลต หรือยาในกลุ่มซัลฟาซาลาซีน เป็นต้น
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ เพราะยาดังกล่าวอาจทำปฏิกิริยากับยา Balsalazide และเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากป่วยเป็นโรคตับ โรคไต และภาวะกระเพาะอาหารส่วนปลายตีบตัน
  • ผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่เป็นโรคอีสุกอีใส มีไข้ มีอาการป่วยที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย หรือเพิ่งได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ควรรับประทานยาบอลซาลาไซด์และยาอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันอย่างยาแอสไพรินหรือยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการราย (Reye’s Syndrome) ได้
  • ห้ามใช้ยาเมซาลามีนในขณะที่ใช้ยานี้ เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดมีลักษณะคล้ายกันมาก      
  • หากผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีเกลือต่ำ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ เนื่องจากยามีส่วนประกอบของโซเดียมด้วย
  • ห้ามเริ่มใช้ยา หยุดใช้ยา หรือเปลี่ยนแปลงปริมาณยาด้วยตนเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และควรปรึกษาแพทย์ถึงผลดีผลเสียและความเสี่ยงต่อทารกก่อนใช้ยานี้  
  • สำหรับผู้ที่ให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาเสมอ เพราะยาอาจซึมผ่านน้ำนมมารดาและเป็นอันตรายต่อทารกได้
  • ยา Balsalazide ชนิดแคปซูลบางยี่ห้อ ไม่ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี รวมถึงยาชนิดเม็ดบางยี่ห้อก็ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ปริมาณการใช้ยา Balsalazide

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

โรคลำไส้อักเสบ
ตัวอย่างการใช้ยา Balsalazide รักษาโรคลำไส้อักเสบ

  • เด็ก เด็กที่มีอายุ 5-17 ปี รับประทานยาปริมาณ 0.75 กรัม 3 ครั้ง/วัน หรือ 2.25 กรัม 3 ครั้ง/วัน และอาจรับประทานยาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์    
  • ผู้ใหญ่ สำหรับผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบที่มีอาการโดยทั่วไป ให้รับประทานยาปริมาณ 1.5 กรัม 2 ครั้ง/วัน โดยปรับปริมาณยาตามการตอบสนองต่อยา และเพิ่มปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 6 กรัม/วัน แต่หากเกิดอาการอย่างเฉียบพลัน ให้รับประทานยาปริมาณ 2.25 กรัม 3 ครั้ง/วัน เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น  

การใช้ยา Balsalazide

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
  • รับประทานยานี้พร้อมหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้
  • เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานยา ผู้ป่วยอาจแกะแคปซูลและนำผงยาภายในมาผสมกับเครื่องดื่มที่มีรสหวานหรือน้ำเชื่อม โดยควรรับประทานให้หมดในครั้งเดียวและไม่เก็บไว้รับประทานในครั้งถัดไป ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้ผงยาเกาะเป็นคราบบนฟันและลิ้นได้
  • มักใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการในช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 8-12 สัปดาห์ ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
  • หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลงหลังใช้ยาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • หากผู้ป่วยลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงช่วงเวลาของยารอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยาตามเวลาปกติ โดยห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • ห้ามให้ผู้อื่นรับประทานยาของตน และห้ามรับประทานยาของผู้อื่น
  • หากผู้ป่วยรับประทานยาเกินปริมาณที่กำหนด ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจทำให้เกิดอาการ เช่น หูอื้อ อาเจียนเป็นเลือด หายใจเร็วหรือหายใจลำบาก สับสน และชัก เป็นต้น
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด โดยเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงด้วย รวมถึงควรปรึกษาวิธีการเก็บรักษาและการกำจัดยาที่ถูกต้องจากแพทย์และเภสัชกร

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Balsalazide

โดยปกติ ยา Balsalazide อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้เป็นบางครั้ง อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดข้อต่อหรือกล้ามเนื้อ มีอาการของไข้หวัดอย่างคัดจมูก จาม และเจ็บคอ มีปัญหาในการนอนหลับ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันทีหากเกิดผลข้างเคียงดังต่อไปนี้

  • มีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง เช่น มีผื่น คัน มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น และคอ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาในการหายใจ เป็นต้น
  • มีภาวะโลหิตจาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการ เช่น ผิวซีด รู้สึกเวียนศีรษะ หายใจไม่อิ่ม หัวใจเต้นเร็ว เป็นต้น
  • มีปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น ปัสสาวะได้น้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย มีอาการบวม และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นต้น
  • มีปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น ปวดท้องส่วนบน รู้สึกเบื่ออาหาร ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระมีสีซีด มีอาการดีซ่าน เป็นต้น
  • อาการลำไส้ใหญ่อักเสบไม่ดีขึ้น ซึ่งอาจมีอาการ เช่น มีไข้ ปวดท้อง ปวดเกร็งบริเวณหน้าท้อง ถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น
  • รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ

นอกจากนี้ หากผู้ป่วยรายใดพบผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ ควรไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรด้วยเช่นกัน