ท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ มักเป็นอาการที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ อาหารเป็นพิษ โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการท้องเสีย และมีไข้อ่อน ๆ มักดีขึ้นได้เองเมื่อเวลาผ่านไป โดยผู้ที่มีอาการท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ อาจดูแลตัวเองได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่ ซึ่งอาจช่วยให้อาการดีขึ้นได้
ท้องเสียอาจเกิดขึ้นร่วมกับอาการไข้ได้ ซึ่งไข้อ่อน ๆ มักเป็นสัญญาณของการที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายกำลังจัดการกับเชื้อโรคหรือการติดเชื้อภายในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากไข้ขึ้นสูงและไข้ไม่ลดลง หรือมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาก่อนเกิดอันตรายต่อร่างกาย
สาเหตุที่ทำให้เกิดท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ
ท้องเสีย มีไข้อ่อน ๆ มักเป็นสัญญาณหรืออาการของปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น
1. โรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ
ท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ มักเกิดจากโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กเกิดการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือพยาธิ และก่อให้เกิดการอักเสบขึ้น โดยเชื้อไวรัสต่าง ๆ เช่น โรตาไวรัส (Rotavirus) และโนโรไวรัส (์Norovirus) มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ
โดยเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบมักแพร่กระจายได้ง่าย ซึ่งอาจแพร่กระจายได้หลายวิธี เช่น การอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มร่วมกับผู้ติดเชื้อ การไม่ล้างมือหลังจากสัมผัสอุจจาระหรืออาเจียนของผู้ติดเชื้อ
โดยอาการต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นภายใน 1–2 วันหลังจากได้รับเชื้อ ซึ่งนอกจากอาการท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ แล้ว ยังอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง อาเจียน น้ำหนักลดลง และปวดเมื่อยตามร่างกาย
2. อาหารเป็นพิษ
อาหารเป็นพิษเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส สารพิษ สารเคมี หรือเชื้อรา โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การไม่ล้างมือก่อนเตรียมอาหาร การกินอาหารที่ไม่สุก การกินผักหรือผลไม้ที่ยังไม่ได้ล้าง อุปกรณ์ทำอาหารไม่สะอาด หรือการกินอาหารที่วางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกินไป
อาหารเป็นพิษมักเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกินอาหารที่ปนเปื้อน และอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ท้องเสีย มีไข้อ่อน ๆ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
3. โรคไวรัสตับอักเสบ เอ
โรคไวรัสตับอักเสบ เอ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส และทำให้เกิดตับอักเสบตามมา โดยอาจเกิดการติดเชื้อได้จากหลายวิธี เช่น การกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ การอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อติดอยู่ หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักและปากกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งโรคไวรัสตับอักเสบ เอ อาจส่งผลต่อการทำงานของตับ และทำให้เกิดอาการท้องเสียตามมา
นอกจากอาการท้องเสีย มีไข้อ่อน ๆ แล้ว ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ดีซ่าน ปวดท้องด้านขวาบน ปัสสาวะมีสีเข้ม เบื่ออาหาร คันอย่างรุนแรง หากพบอาการของโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
4. โรคบิดชิเกลล่า (Shigellosis)
อาการท้องเสีย มีไข้อ่อน ๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคบิดชิเกลล่า ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชิเกลล่า โดยผู้ติดเชื้ออาจมีอาการต่าง ๆ เช่น ท้องเสีย ถ่ายเหลว อาจพบมูก เลือดหรือหนองในอุจจาระ มีไข้อ่อน ๆ ปวดท้อง อาเจียน
โดยการติดเชื้ออาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสัมผัสอุจจาระของผู้ติดเชื้อหรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อทางทวารหนักและทางปาก การกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยเฉพาะอาหารจำพวกผักหรืออาหารทะเล เช่น ปู กุ้ง หรือหอย
5. อหิวาตกโรค
อหิวาตกโรคเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มักพบได้บ่อยในน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่แออัดหรือเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการกินอาหารทะเล ผัก และผลไม้ที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก เนื่องจากน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกหรือใช้ในการขนส่งอาจปนเปื้อนเชื้อ หากกินโดยที่ยังไม่ผ่านความร้อนอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
โดยอาการของอหิวาตกโรคที่เห็นได้ชัดคือ ท้องเสียอย่างรุนแรง ถ่ายเป็นน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการภาวะขาดน้ำเนื่องจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายจากอาการท้องเสียและอาเจียน โดยอาจมีอาการต่าง ๆ ่เช่น กระหายน้ำ ปากแห้ง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หากเกิดอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง อาจส่งผลให้มีไข้ร่วมด้วย ดังนั้น ท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ จึงอาจเป็นสัญญาณของอหิวาตกโรคได้
6. โรคบิดอะมีบา (Amebiasis)
โรคบิดอะมีบาอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ ได้ โดยโรคบิดอะมีบาเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้ออะมีบา ซึ่งมักพบบ่อยในบริเวณที่มีอากาศร้อน และสุขอนามัยไม่ดี โดยอาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อผ่านการสัมผัสอุจจาระหรือมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักและทางปากกับผู้ติดเชื้อ หรือการกินอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อ
อาการของโรคบิดอะมีบามักปรากฏขึ้นหลังจากการติดเชื้อภายใน 4 สัปดาห์ โดยอาจมีอาการต่าง ๆ เช่น ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ ท้องเสีย มีไข้ คลื่นไส้ ในบางครั้งอาจมีอาการอุจจาระปนเลือดร่วมด้วย
วิธีดูแลตัวเองเมื่อท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ อาจดีขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองขณะเกิดอาการท้องเสีย มีไข้อ่อน ๆ อาจทำได้หลายวิธี เช่น
- ดื่มน้ำเกลือแร่โออาร์เอส (ORS) เพราะการดื่มน้ำเกลือแร่อาจช่วยทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากการท้องเสียหรืออาเจียน อีกทั้งยังช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำอีกด้วย
- กินอาหารอ่อนหรืออาหารที่มีไฟเบอร์น้อย เช่น กล้วย ข้าวขาว ขนมปัง โดยอาหารเหล่านี้อาจช่วยให้อุจจาระจับตัวกันเป็นก้อนมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ซึ่งอาจทำให้อาการท้องเสียรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำได้
- หลีกเลี่ยงการกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมจนกว่าอาการท้องเสียจะดีขึ้น เพราะผู้ที่มีอาการท้องเสียบางรายอาจมีอาการแพ้แลคโตส ซึ่งอาจทำให้อาการท้องเสียรุนแรงได้
- กินยาลดไข้ต่าง ๆ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และยาอะเซตามีโนเฟน (Acetaminophen) เพื่อบรรเทาอาการไข้ให้ดีขึ้น
- กินยารักษาอาการท้องเสีย เช่น ยาบิสมัท ซับซาลิไซเลต (Bismuth subsalicylate) อาจช่วยให้อาการท้องเสีย ถ่ายเหลวดีขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการท้องเสียมีไข้อ่อน ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอาจจำเป็นต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสีย
อย่างไรก็ตาม ควรไปพบแพทย์ หากมีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง ท้องเสียอย่างรุนแรงหรือท้องเสียเกิน 3 วัน อุจจาระหรืออาเจียนปนเลือด ปวดท้องอย่างรุนแรง หรือมีสัญญาณของภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย หายใจถี่ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปัสสาวะสีเข้ม
โดยผู้ที่มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และมีอาการภาวะขาดน้ำ แพทย์อาจให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป และอาจให้พักดูอาการในโรงพยาบาลจนกว่าจะอาการท้องเสียและอาการขาดน้ำจะดีขึ้น