มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยางป้องกัน เกิดอาการเจ็บท้อง ควรทำไงดี

 สวัสดีค่ะ คุณ Aron Hughes,

                       การมีเพศสัมพันธ์ โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้น จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 82%-98%

                       สำหรับอาการปวดท้อง ขึ้นกับว่าปวดตรงตำแหน่งใดของช่องท้องค่ะ 

                   1. หากเป็นบริเวณด้านขวาบน สาเหตุ ได้แก่

                  - ตับอักเสบ ท่อน้ำดีอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ แต่มักจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย และอาจมีไข้ร่วมด้วย

                  - การอักเสบของลำไส้ส่วนที่อยู่บริเวณช่องท้องขวาด้านบน มักมีอาการถ่ายอุจจาระเหลว คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

               2. เป็นบริเวณด้านขวาล่าง สาเหตุ ได้แก่

                    - ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดท้องจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด เป็นต้น

                   -  ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านขวาล่างอักเสบ

                   -  ปีกมดลูกด้านขวาอักเสบ มักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

                    - มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา 

                  3. หากเป็นบริเวณช่องท้องซ้ายบน อาจเกิดได้จาก

                  - โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน และอาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                 - กรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอกร่วมด้วย อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ เป็นต้น

                 4. หากเป็นบริเวณด้านซ้ายล่าง อาจเกิดได้จาก

                - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านซ้ายล่างอักเสบ นอกจากปวดท้องแล้ว มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่านอุจจาระเหลวร่วมด้วย

                - ปีกมดลูกด้านซ้ายอักเสบ ท้องนอกมดลูกด้านซ้าย มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย 

                 - ถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ

                 5. หากเป็นบริเวณท้องน้อยตรงกลาง อาจเกิดจาก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มดลูกอักเสบ เป็นต้น

                  นอกจากนี้ อาจเกิดจากกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องเกิดการบาดเจ็บ จากการออกแรงใช้งานกล้ามเนื้อหน้าท้องมากไปก็ได้ โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นสัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทาง

                  หากอาการปวดไม่รุนแรง แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อนค่ะ แต่หากอาการปวดท้องรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการต่างๆ เช่น มีไข้  ถ่ายอุจจาระเหลวปริมาณมาก อาเจียนหลายครั้ง ตัวเหลือง ตาเหลือง ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ

                  แต่หากอาการปวดท้องสัมพันธ์กับการมีประจำเดือน หรือมีประจำเดือนผิดปกติร่วมด้วย หรือมีตกขาวที่ผิดปกติ แนะนำให้ไปพบสูติ-นรีแพทย์ค่ะ