ถามแพทย์

  • อาการภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้ากลับมากำเริบอีกครั้ง ตอนนี้ใช้ยาอยู่ แต่ยังมีความคิดอยาฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง ควรทำอย่างไร

  • สวัสดีครับคุณหมอ พอดีอาการภาวะวิตกกังวล+ซึมเศร้าของผมกลับมากำเริบอีกครั้ง สาเหตุ 1.เพราะหยุดยาไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภา(ยาหมด)และเพราะคิดว่า อาการเป็นปกติเหมือนคนทั่วๆไป และ2.มีปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นกับคนในครอบครัว อาการโดยรวม ผมได้รับการรักษาโรคซึมเศร้า+วิตกกังวล มาตั้งแต่ต้นเดือนกันยา ปี2560 แล้วครับ นับตั้งแต่ที่ผมหยุดยาวันที่ 10 พฤษภา(ยาหมด)อาการทางจิตเวชก็ดูเป็นปรกติเหมือนคนทั่วๆไป ใช้ชีวิตตามปกติ โดนไม่มีอะไร พอนับตั้งแต่วันที่ 21 22 พฤษภา ก็ได้เริ่มมีปัญหากับคนในครอบครัว ทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน ปัญหากับคนในครอบครัวเริ่มถี่ขึ้น หนักขึ้นเรื่อยๆ จนวันที่ 6 มิถุนาที่ผ่านมา อาการภาวะวิตกกังวล+ซึมเศร้าเริ่มกำเริบขึ้นอีกครั้ง ช่วงหนึ่งถึงสองวันแรก มีอาการวิตกกังวลเกิดขึ้นแทบทั้งวัน กังวลในสิ่งที่ไม่ควรจะกังวล ไม่มีความร่าเริงแจ่มใสในกิจวัตรที่ทำ วันต่อมาก็มีอาการเศร้าแทบทั้งวัน อยากร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด เหงา โดดเดี่ยว สิ้นหวัง ท้อแท้ ไม่อยากทำอะไร อยากนอนอยู่เฉยๆ ความฝันที่เคยลุกโชติช่วงก็ริบหรี่ลงไปมาก ความคิดอยากฆ่าตัวตายเกิดขึ้นถึง 4 ครั้ง เป็นแค่ความคิดเท่านั้น ไม่ได้ที่ลงมือทำจริงๆ แทบทั้งวันจิตใจไม่มีความยินดี ร่าเริง แจ่มใสเลย ทำอะไรก็เบื่อหน่ายไปหมด จนถึงวันนี้ เว้นแต่ช่วงกลางคืนที่อาการเหล่านี้จะบรรเทาลงไปบ้าง ตอนนี้ผมกลับมาทานยาเหมือนเดิมได้ 7 วันละครับ ยาที่ทานมีดังนี้ ฟลูออกซิทีน 20 มก.หลังอาหารเช้า 2 เม็ด นอร์ทริปไลทีน 1 10 มก.เม็ดก่อนนอนและคลอราซีเปรท 5 มิลลิกรัมก่อนนอน แม้ผ่านมา 7 วันที่ทานยาอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร กรณีอย่างนี้ควรทำอย่างไรหรือไปพบจิตแพทย์เลยมั้ยครับ ดูเหมือนยาที่ทานในปัจจุบันเป็นขนาดที่ถูกปรับลดลงมาจากครั้งก่อนๆ

    ศรีนคร นพบุรี  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ ศรีนคร นพบุรี

    โรคซึมเศร้า  เป็นภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ที่ผู้ป่วยอาจรู้สึกเศร้า สิ้นหวัง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือรู้สึกว่าตนด้อยค่า ทำอะไรที่ชอบทำก็ไม่สนุก รู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต ทำให้มีพฤติกรรมการกินการนอนที่ผิดไปจากปกติ อาจทำให้ไม่สามารถไปเข้างานหรือเข้าสังคมได้ อาจมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย

    ซึ่งเป็นโรคที่ต้องอาศัยการดูแลจากจิตแพทย์ในระยะยาวด้วยการใช้ยาต้านเศร้าและทำจิตบำบัด การใช้ยาควรใช้อย่างต่อเนื่องให้ครบตามแพทย์สั่งไม่หยุดยาเอง ตอนนี้หากได้กลับมากินยาตามแพทย์สั่งแล้ว ขอให้กินต่อไปอย่างต่อเนื่องก่อน และสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิดต่อไป หากในระหว่างที่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องจนเกิน 2 สัปดาห์แล้ว ยังมีความคิดหดหู่ อยากฆ่าตัวตายอยู่ตลอด อาจหมายถึงตัวโรคที่ควบคุมไม่ได้ ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด เพื่อวางแผนการรักษาและปรับยาอย่างเหมาะสมต่อไป

    เบื้องต้นใช้เวลาอยู่กับเพื่อนและคนในครอบครัว ไม่อยู่คนเดียว หากมีพฤติกรรมอยากฆ่าตัวตายควรแจ้งให้คนรอบๆตัวทราบเพื่อให้ช่วยกันสังเกตการณ์และคอยช่วยเหลือเราได้เมื่อมีปัญหาหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด หากิจกรรมหรือเรื่องที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องเศร้า