ปวดท้องใต้ชายโครงขวา ปวดทั้งวันและเป็นๆหายๆ เป็นมาหลายเดือน เคยรับการตรวจวินิจฉัยด้วยการอัลตราซาวน์ช่องท้อง มดลูก สวนแบเรียม ผลทั้งหมดปกติ

สวัสดีค่ะ คุณ idea23,

                      อาการปวดท้องใต้ชายโครงขวา อาจเกิดจาก

                       1. ตับอักเสบ อาจเกิดจากการติดเชื้อเช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ บี เป็นต้น หรือไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ จากยาหรืออาหารเสริมบางชนิด เป็นต้น

                      2. มีก้อนเนื้องอกธรรมดาหรือก้อนมะเร็งในตับ

                      3. ฝีในตับ

                      4.ถุงน้ำดีอักเสบ

                      5. นิ่วในถุงน้ำดี

                      6. ปอดอักเสบบริเวณกลีบล่างขวาอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ 

                      แต่หากคุณ  idea23 ได้รับการตรวจหาเหตุด้วยอัลตราซาวด์ช่องท้อง เอ๊กซเรย์ปอด สวนแป้งลำไส้ใหญ่แล้ว ไม่พบผลผิดปกติ อาจเกิดจากกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นบริเวณซี่โครง หรือกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบก็ได้ 

                    สำหรับการตรวจพบว่ามีอุจจาระตกค้างในลำไส้มาก อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีอาการท้องอืด เรอ ผายลมบ่อย และอาการปวดท้องเรื้อรัง โดยอาจปวดตำแหน่งไหนก็ได้ ซึ่งรวมถึงอาการปวดใต้ชายโครงขวาด้วยค่ะ สาเหตุที่ทำให้อุจจาระตกค้าง อาจเกิดจาก

                       - เคยมีการผ่าตัดช่องท้อง ทำให้ลำไส้เป็นพังผืด มีซอกหลืบให้อุจจาระไปตกค้างอยู่

                      - การชอบกลั้นอุจจาระบ่อยๆ ผนังของลำไส้อาจกลายเป็นถุงยื่นออกไป และอุจจาระก็ตกค้างอยู่ในถุงเหล่านั้นได้

                      - การมีลำไส้ยาวกว่าคนปกติ ยิ่งลำไส้ยาว ก็ยิ่งต้องใช้เวลาลำเลียงอุจจาระนานขึ้น จึงตกค้างได้ 

                     - คนที่ไม่ค่อยได้ขยับตัว ทำงานนั่งตลอดเวลา หรือเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง ลำไส้จึงไม่เคลื่อนไหว อุจจาระก็จะตกค้างตามมา

                    เพื่อป้องกันการเกิดอุจจาระตกค้างในลำไส้และทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา ควรพยายามทานน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ลดการทานเนื้อสัตว์ปริมาณมาก เนื่องจากเนื้อจะย่อยยาก ทำให้ค้างอยู่ในลำไส้ได้นาน ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ การทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวอาจช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้นได้ เนื่องจากมีแบคทีเรียที่ไปช่วยการทำงานของลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ควรมีการเคลื่อนไหวอิริยาบทบ้างหากต้องนั่งนานๆ เช่นอาจลุกเดินไปเดินมาแล้วค่อยนั่งทำงานต่อ แต่หากหาเวลาออกกำลังกายให้ได้จะดีที่สุดค่ะ และควรฝึกขับถ่าย ไม่กลั้นอุจจาระ และไม่เบ่งถ่าย

             หากไม่ถ่ายอุจจาระนานเกิน 3 วัน หรืออุจจาระแห้ง แข็ง เป็นก้อนเล็กๆ ควรหายาระบายช่วยค่ะ ไม่ควรปล่อยให้มีอาการท้องผูกเรื้อรัง