ชอบเก็บตัวอยู่ในห้อง คิดอะไรซ้ำไปมา อยากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า

ขอเล่าแบบย่อๆนะค่ะ คุนหมอ ตอนอายุ16 ประมานปี55มีแฟนคนแรกช่วงเรียนวิทยาลัยค่ะ แล้วก็คบกันนานจนถึงปี3 ระหว่างคบกันเค้านอกใจตลอด หนูเลยทำร้ายตัวเองโดนการกรีดข้อมือตัวเอง กับมีดบ้าง กับแก้วบ้าง มีเหตุการณ์ช่วงนึงค่ะ ไปหางานทำซึ่งอยากแบ่งเบาภาระพ่อแม่ เป็นร้านอาหารชิลๆกึ่งผับร้านนึงที่จ.พัทลุง ร้านดังค่ะ มีพี่คนนึงที่รู้จักที่วิทยาลัยแนะนำให้ไปทำ ก็ไปทำพี่แกเสนอจะไปรับไปส่ง จนเราก็วางใจ แต่ไม่ได้คิดอะไรกับพี่เค้านะค่ะ ทำงานได้วันที่3 วันนั้นจะกลับบ้านค่ะ เหตุการณ์ก็คือพี่คนนั้นขับรถพาเราเข้าม่านรูดค่ะ ตอนแรกก็แปลกใจ ทำไมพามาทางลัดหรือเปล่า แต่พอพี่เค้าจอดรถค่ะ เลยรู้เลยว่าใช่แน่ๆ เหตุการณ์ตอนนั้น ตกใจมากกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ตัดสินใจใช้โทรสับโทรหาพี่ที่ทำงานให้มาช่วยเลยรอดวันนั้น แต่ก็ยังจำได้กลัวมากเลยค่ะ ตอนนั้นอายุ17ได้ค่ะ พอจะจบปี3 ปี58 ตอนนั้นเป็นช่วงที่ชีวิตตกต่ำมากค่ะ หนูท้อง แต่แฟนหนูไม่รับผิดชอบอะไรเลยค่ะ พ่อแม่ไปขับรถไปตามหาบ้านแฟนซึ่งไกลมากค่ะ สงสารพ่อแม่เหมือนกัน TT แต่ก็เปล่าประโยชน์ ช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้จะจบ โครงงานเอย พ่อของลูกเอย จนต้องแท้ง สุดท้ายผช.ก็ไปมีคนอื่นไปแอบได้เสียกับคนอื่น ช่วงนั้นหนูกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่รู้ผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ช่วงนั้นเป็นปี59 ที่นี่ย้ายมายุต่างจ. หางานทำ ทำงานกี่ที่ๆ ก็ลาออกเพราะเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เพราะเค้าเห็นแก่ตัว ซ้ำกลับบ้านร้องไห้ทุกวัน รู้สึกเจ็บใจตัวเองมากค่ะ ตอนนี้ก็มีหนี้ต้องจ่ายอีก ประมาน50,000กว่า ตกงานอีกเพราะกลัวทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายเยอะเลย และอีกอย่างนึงที่รู้สึกว่าในหัวจะวนมาตลอดเลยค่ะ คือ เพื่อน มีเพื่อนประมาน4คนค่ะ ที่คิดว่าในชีวิตเชื่อสนิทที่สุดแล้ว คนแรกคือเพื่อนห้องเดียวกันค่ะ แย่งแฟนไปเลยทำให้ทะเลาะกันจนถึงทุกวันนี้ รู้จักกันประมาณ5ปี ส่วนคนที่2เป็นทอมค่ะ รู้จักกัน5ปี เพื่อนห้องเดียวกันค่ะ ทะเลาะกันเพราะหนูให้คำปรึกษามัน เรื่องแฟนมันมีชู้แล้วแฟนมันมาเห็นแชทเฟสเลยทะเลาะกันอีก คนที่3เป็นเพื่อนที่ทำงาน รู้จักกัน2ปี คนนี้หักหลังเรื่องหนูยุข้างมัน เนื่องจากมันทะเลาะกับรุ่นพี่ในร้าน รุ่นพี่แอบอ่านแชทที่มันแชทกับหนู ซึ่งเพื่อนคนนี้แอบนินทารุ่นพี่ ซึ่งอันนี้รุ่นพี่นิสัยอย่จริงๆ สุดท้ายหนูเป็นหมาหัวเน่าค่ะ คนสุดท้ายคนนี้รู้จักประมาน9ปีได้ค่ะ ทะเลาะเรื่องใหคำปรึกษาเหมือนคนที่2อีกค่ะ คือที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่คิดในหัวตลอดเลยค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ 😥