ถามแพทย์

  • สอบถามเรื่องผลข้างเคียงของยาจะส่งผลต่อการมีลูกในอนาคตไหม

  •  Sasa Girl
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ คือดิฉันแต่งงานมาได้1ปีแล้วค่ะ ตอนนี้อายุ22ปี กำลังศึกษาอยู่ปี4 ดิฉันได้เริ่มทานยาคุมตั้งแต่วันแรกของการแต่งงาน เพราะแผลนอยากจะเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยมีลูก ตั้งแต่ทานยาคุมมาตอนนี้ก็จะเกือบปีละที่ทานยา ปรากฎว่ามดลูกของดิฉันแห่งมากเลยค่ะ ไม่มีน้ำหล่อหลื่นเลย เพราะปกติจะเป็นคนมดลูกแห้งยุวแล้ว แต่พอทานยามันยิ่งแห้งกว่าเดิม คุณหมอพอจะมีวิธีรักษาแก้อาการมดลูกแห้งไหมค่ะ ตั้งแต่แต่งงานกันมาสามีไม่เคยหลั่งในเลยค่ะ เพราะกลัวทัอง ถึงแม้จะทานยาคุมแล้วก้ตาม อยากถามคุณหมอว่าเราสามารถหลั่งในได้ไหมค่ะในขณะที่ทานยาคุมอยู่และจะมีโอกาสทัองกี่เปอร์เซ็นค่ะ แล้วคนที่ทานยาคุมนานๆจะมีผลต่อการมีลูกในอนาคตไหมค่ะ พอดีอยากมีลูกมากก แล้วถ้าจะหยุดยา ควรเริ่มต้นหยุดตอนนี้เลยหรือค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ (ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบน่ะค่ะคุณหมอ)

     สวัสดีค่ะคุณ  Sasa Girl

    าคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ชนิด 21/28 เม็ด ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ตามลำดับติดต่อกันทุกวัน โดยเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดไม่เกินวันที่ 5 หลังประจำเดือนมาวันแรก ถ้าเป็นแบบ 21 เม็ด เมื่อยาหมดแผง ต้องหยุดรับประทานยา 7 วัน โดยต้องรับประทานยาทุกวันในเวลาเดียวกันเสมอ หากลืมไม่เกิน 1 วัน ให้รับประทานทันทีที่รู้ตัว แล้วรับประทานยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ แต่หากลืมเกินกว่า 48 ชั่วโมง ให้ข้ามไปรับประทานยาตามวันปัจจุบัน แล้วใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นช่วยในการคุมกำเนิดร่วมด้วย โดยในวิธีนี้ถือว่า มีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่่น ๆ คุมกำเนิดได้ประมาณ 99% โดยไม่จำเป็นต้องหลั่งนอกค่ะ และโดยทั่วไป สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้อีกครั้งในเดือนถัดไปหลังหยุดยาคุมกำเนิดค่ะ

        ส่วนอาการไม่มีน้ำหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์เป็นอาการของช่องคลอดแห้ง ซึ่งเป็นอาการที่ภายในช่องคลอดขาดเมือกหล่อลื่นหรือมีน้อยลงกว่าปกติ อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

    ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน อย่างคนวัยทอง หรือปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงจากสาเหตุอื่น อย่างการผ่าตัดรังไข่ออกทั้งสองข้าง อยู่ในช่วงให้นมบุตรหรือคลอดลูก การรักษาโรคมะเร็ง - อย่างการฉายแสง การทำเคมีบำบัด หรือการรักษาด้วยด้วยการรับประทานยาต้านเอสโตรเจน การคุมกำเนิดบางประเภท เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด หรือการรับประทานยาคุมกำเนิดอาจทำให้สภาพในช่องคลอดแห้งขึ้นได้เป็นครั้งครา นอกจากนี้ ความเครียดอย่างรุนแรง อาการซึมเศร้า หรือการออกกำลังกายอย่างหนัก

    แนะนำว่า หากยังมีอาการมาก ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ