ถามแพทย์

  • รู้สึกเบื่อหน่าย สิ้นหวัง เครียด ตอนนี้ตั้งครรภ์ด้วยค่ะ อยากปรึกษาจิตแพทย์

  • อันดับแรกต้องบอกก่อนว่าเป็นความเครียดสะสมค่ะ ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์มา 1 ปีเต็ม สาเหตุเกิดจากแฟนค่ะ ปกติเราเป็นคนร่าเริงมากค่ะ ตลกเฮฮาใครอยู่ไกล้ไม่เคยมีใครเครียดค่ะ เพื่อนเยอะ พี่น้องก็ชอบค่ะ เวลาทำผิดแทบไม่มีใครกล้าด่าเพราะเราร่าเริงมากจึงทำให้เป็นเรื่องตลกไปซะทุกเรื่อง เรื่องเครียดไม่ค่อยมีค่ะ เพราะเจอปัญหาอะไรเราผ่านได้หมดค่ะ จนวันนึงเรามาเจอแฟนค่ะ เค้ามีลูก 2 คน เรามาอยู่กับเค้าที่บ้านค่ะ เราเลี้ยงลูกแฟนเหมือนลูกเราเลยค่ะ เรารักมากเหมือนลูกเรา แม่แท้ๆมารับ ลูกยังเลือกอยู่ับเราค่ะ เราก็มีความสุขในแบบของเรากับครอบครัวแฟน เราทำทุกอย่างที่แฟนไม่สามารถทำได้ในขณะนั้น เลี้ยงดูแลลูก ช่วยงานที่บ้านแฟนแทบทุกอย่าง งานหนักากค่ะ เพราะแฟนเราทำงานเป็นพนักงานบริษัท พ่อแฟนไม่สบาย เราคอยดูแลเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวแบบไม่รังเกียจและไม่อาย จนพ่อแฟนเสียไปค่ะ เราเชื่อใจแฟนเรามากค่ะ เพราะเค้าเหมือนคนรักครอบครัว แต่มาวันนึงมีผู้หญิงคนนึงส่งข้อความมาว่า เค้าเลี้ยงเมียน้อยอยู่ เราอึ้งและเสียใจมาก จนกลายเป็นความเศร้าสะสม เรามัวแต่มองย้อนไปว่าเราผิดอะไร เราไม่ดีตรงไหน เรารักลูกดูแลพ่อช่วยงานแม่ไม่พอหรอ? เค้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้เรากลับไปค่ะ มันกระทันหันจนเราทำใจจากไม่ได้จริงๆค่ะ เรายอมกลับมา แต่เรานึกถึงแต่สิ่งที่เค้าทำค่ะ ระหว่างที่เรายอมหยุดทุกอย่าง เพื่อมาดูแลสิ่งที่เค้ารัก แต่เค้ากลับไปหาเศษหาเลย เราต้องแอบร้องไห้ทุกคืน เราคิดถึงเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนเป็นบ้า จนเราต้องไปเพิ่งยาเสพติดกันเลยทีเดียว เพราะมันทำให้เราลืมค่ะ ลืมในขณะใช้ยาเสพติด เราไม่ร่าเริงอีกแล้วค่ะ คนที่อยู่ไกล้ตัวก็อึดอัดไปด้วย เราไม่ตลกอีกแล้ว เราเศร้า เราท้อแท้ สิ้นหวัง เบื่อหน่าย เครียด และร้องไห้ง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ค่ะ โมโหมาเราจะเปลี่ยนเป็นอีกคน เราเหมือนคนบ้า เรากรี๊ด เราเคยเอามีดด้ามยาวฟันแฟน เคยเอามีดไล่แทง เราเคยคิดอยากตาย แต่สงสารคนข้างหลัง เราก็เปลี่ยนไปเล่นยาแทน เราเป็นแบบนั้นจนเกือบปีค่ะ เราเริ่มห่างยาเสพติด แต่ดูเหมือนว่าเราใช้ยาเสพติดสร้างความสุขให้ตัวเองจน วันนึงที่เราตัดสินใจเลิก เหมือนมันจะไม่มีความสุขอีกแล้ว เราเหมือนคนสิ้นหวัง เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ไปเกิดใหม่ดีมั้ย และแล้วอาการเรามารุนแรงตอนท้องค่ะ ท้องเพราะการคุมกำเนิดผิดพลาดค่ะ เราเครียดจนหายใจไม่ออก เราคอยแต่ร้องไห้ตอนที่แฟนหลับไปแล้ว แฟนยังคงกินเหล้ากับเพื่อนกลับบ้านดึกทุกคืน มันทำให้เรายิ่งเครียด ยิ่งทำให้เราอยากกลับไปใช้ยา แต่มีหนึ่งชีวิตน้อยๆอยู่กับเราค่ะ เราเลยต้องเครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง และเบื่อหน่ายอยู่อย่างนี้ เราร้องไห้ง่ายมากจากที่เข้มแข็งสุดๆ ใจแข็งสุดๆ จนตอนนี้เราอ่อนแอ อ่อนแอมาก เรารุ้สึกว่ามีแต่คนเห็นแก่ตัวเต็มไปหมด เราปรึกษาใครมีแต่คนบอกว่า เราคิดมาก เราเยอะ เราคิดไปเอง เรารุ้สึกแย่กับคำพูดพวกนี้ เราไม่อยากเจอใคร เพราะเราไม่อยากได้ยินอะไรที่ตอกย้ำอีกแล้ว เราไม่รุ้ว่าจะเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามั้ย หรือถ้าเป็น เราไม่อยากใช้ยาค่ะ เราห่วงลูกในท้องมาก ไม่อยากเศร้าเลยค่ะ กลัวกระทบลูก เราอยากได้คนรับฟัง และคำปรึกษาที่เรารุ้สึกว่าได้ยินแล้วมีกำลังใจค่ะ เราอยากไปปรึกษาจิตแพทย์มากค่ะ แต่เรายุ่ในสถานที่ที่การดานมาก ไม่รุ้ว่าต้องไปหาที่ไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เราเครียดมากค่ะ ความรุ้สึกตอนนี้คือ อยากไปไกลๆที่ไหนก้อได้ ที่ไม่มีคนหาเจอ
    สวัสดีค่ะ คุณ ลัดดา ศิริเลิศวิริยะ -จากที่เล่ามา คิดว่าคุณลัดดา ศิริเลิศวิริยะ มีภาวะทางอารมณ์ไม่ปกติ อาจมีภาวะเครียด หรืออาจมีภาวะโรคซึมเศร้าค่ะ ส่วนหนึ่งจากปัญหาเดิม อีกส่วนจากที่ตั้งครรภ์ทำให้เกิดฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงส่งผลถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดค่ะ -ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะมีอาการที่เปลี่ยนแปลงทั้งอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ความจำ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป และอาการแสดงทางร่างกายต่างๆ โดยอาการอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นสัปดาห์ หรือค่อยเป็นค่อยไปเป็นก็ได้ -อาการทางอารมณ์ เช่น เศร้า หดหู่ อ่อนไหว บางคนอาจมีความรู้สึกไม่แจ่มใส เบื่อหน่าย บางคนมีอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวได้ -ความรู้สึกนึกคิด เช่น มองอะไรแย่หมด ท้อแท้หมดหวัง รู้สึกไร้ค่า ไร้ความสามารถ บางคนอาจมีอารมณ์ชั่ววูบอยากทำร้ายตนเอง -สมาธิความจำแย่ลง -ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป อาจจะเก็บตัว ไม่ค่อยพูด ทำงานแย่ลง -อาการแสดงทางร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง นอบหลับๆตื่นๆ ไม่เจริญอาหาร น้ำหนักลด ท้องผูก ท้องอืด ปวดหัว ปวดตามตัว *คนไข้หากมีอาการมากขึ้น อาจมีอาการหลงผิด ประสาทหลอน หูแว่วได้ *โรคซึมเศร้านี้ยังมีลักกษณะอาการคล้ายโรคอื่นอีก เช่น โรควิตกกังวล โรคอารมณ์แปรปรวน โรคสมองอักเสบ โรคไทรอยด์ทำงานบกพร่อง เป็นต้น -การรักษา: ในรายที่เป็นมาก แพทย์จะให้ยาช่วย แต่บางรายที่เป็นไม่มากแพทย์อาจจะพูดคุยให้คำแนะนำเพื่อให้อาการดีขึ้น **ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณ ลัดดา ศิริเลิศวิริยะ ควรเล่าถึงภาวะทางอารมณ์ให้คนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลายและช่วยแก้ไขปัญหานะคะ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปกับแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม. เป็นกำลังใจให้นะคะ