ถามแพทย์

  • มีอาการคันตาเวลาอากาศเปลี่ยน มีขี้ตา ตาแฉะ มีน้ำตาและน้ำมูกไหลตลอด เป็นภูมิแพ้หรือไม่

  •  smilebell
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ดิฉันมีอาการคันตามากๆ เวลาอากาศเปลี่ยน ล่าสุดไปพบแพทย์มาแล้วเขาแนะนำให้ใช้น้ำอุ่นประคบดวงตา บอกว่าเยื่อบุตาอักเสบแล้วให้ยามาหยอด ซึ่งทำแล้วก็ไม่ได้ดีขึ้น ตื่นมาขี้ตาเป็นสีเขียวนิดๆตาแฉะ น้ำตาและน้ำมูกไหลตลอด ห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็จะขยี้จนตาบวมค่ะ บางวันถ้าคันไม่หยุดก็จะทานแก้แพ้แล้วนอน พอตื่นมาก็เป็นอีก แบบนี้เรียกว่าภูมิแพ้ขึ้นตาหรือเปล่าคะ หรือเป็นภูมิแพ้แบบเฉียบพลันหรอคะ มีแนวทางอย่างไรแนะนำบ้างคะที่จะทำให้ดีขึ้น ถ้าทานวิตามินซีงี้ช่วยได้ไหม:)

     สวัสดีค่ะ คุณ smilebell,

                     อาการคันตาเวลาอากาศเปลี่ยน ร่วมกับอาการมีน้ำมูกไหล ดังกล่าว น่าจะเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ค่ะ ซึ่งอาจมีทั้งภูมิแพ้ทางดวงตาและภูมิแพ้อากาศร่วมกัน

                   - ภูมิแพ้ขึ้นดวงตา (eye allergy หรือ allerigic conjuctivitis) จะมีการอักเสบที่เยื่อตาขาวและใต้เปลือกตา อาการคือคันตา ตาแดง น้ำตาไหล แสบตา มีขี้ตามาก โดยจะเกิดเมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่ที่พบบ่อย เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรหญ้าหรือดอกไม้ สะเก็ดผิวหนังจากสัตว์ ขนสัตว์ อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล นม ถั่ว ควันธูปเทียน ควันบุหรี่ น้ำหอม เป็นต้น

                   - ภูมิแพ้อากาศหรือโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) อาการคือมีน้ำมูกใส จาม คันจมูก บางรายอาจมีอาการไอเรื้อรังจากเสมหะที่ไหลลงคอ หรือรู้สึกเสมหะติดคอในตอนเช้า บางรายมีอาการคันหัวตา ซึ่งเกิดจากเยื่อบุจมูกบวมมาก ทำให้ท่อน้ำตาที่อยู่ติดกันเกิดการอักเสบบวมไปด้วย และบริเวณใต้ตามักดำคล้ำ เนื่องจากมีการขยายตัวของเส้นเลือดมากกว่าปกติ

                         แนะนำให้ลองสังเกตว่ามีสิ่งใดที่มักกระตุ้นให้เกิดอาการและพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นๆ ควรหลีกเลี่ยงการเกา การขยี้ตา งดการใส่คอนแทคเลนส์ชั่วคราว (หากใช้อยู่) งดการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา หากมีเปลือกตาบวมร่วมด้วย อาจใช้การประคบเย็นบริเวณเปลือกตา ซึ่งความเย็นจะช่วยดึงน้ำกลับเข้าเส้นเลือด ช่วยลดอาการบวมลงได้  หากมีอาการคันมาก ก็อาจทานยาแก้แพ้ เช่น เซทิริซีน (cetirizine), ลอราทาดีน (loratadine) เป็นต้น

                      หากพยายามสังเกตแล้วแต่ไม่พบสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการชัดเจน และอาการเป็นมาก เป็นทุกวัน รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์ เพื่อทดสอบสารก่อภูมิแพ้ทางผิวหนังและรับยารักษาต่อเนื่องค่ะ

                       ส่วนการปฏิบัติตัวในด้านอื่นๆ ที่จะช่วยให้ระบบภูิคุ้มกันเกิดความสมดุล เช่น ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ดื่มแอลลกฮอล์และไม่สูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ เป็นต้น ส่วนการทานอาหารเสริมต่างๆ ไม่ได้ช่วยให้อาการหายได้โดยตรง