ถามแพทย์

  • ผื่นแดงขึ้นหลังจากหายไข้ และมีอาการคัน เป็นอาการอะไร

  •  Nuu Nuchnuch
    สมาชิก
    15ต.ค.62เริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและมีไข้อยู่4วันปากก็เป็นแผลร้อนใน ยาที่ใช้:พาราเซตาม่อล/ยาคลายกล้ามเนื้อ/ยาเขียวแก้ร้อนใน 21ต.ค.62หายไข้ได้2-3วันมีผื่นเเดงขึ้นคันด้วยคะและอาการปวดเมื่อยก็ยังมีบ้างประปลาย
    Nuu Nuchnuch  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Nuu Nuchnuch

    อาการไข้และมีแผลในปาก อาจเกิดจาก ไข้จากแผลร้อนในในปาก คออักเสบหรือติดเชื้อ แต่ถ้ามีผื่นหลังจากนั้นด้วย ก็อาจเกิดจาก

    -ไข้ออกผื่นจากเชื้อไวรัสชนิดไม่เจาะจง เช่น เกิดจากการติดเชื้อ enterovirus หรือ adenovirus ซึ่งอาการในกลุ่มนี้ไม่มีอาการเฉพาะเจาะจง โดยส่วนใหญ่คือจะมีไข้ แล้วตามการเกิดผื่น ลักษณะผื่น อาจเป็นผื่นราบสีแดง ผื่นนูนสีแดง หรือตุ่มน้ำใส

    -ไข้เลือดออก มีไข้สูงลอย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และมีจุดเลือดออกสีแดงเล็กๆ ตามผิวหนัง (ไม่ใช่ผื่นที่มีลักษณะนูนสีแดง) นอกจากนี้อาจมีเลือดออกบริเวณอื่นๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนมีเลือดปน

    -โรคอีสุกอีใส ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ เบื่ออาหาร หลังจากนั้น 1-2 วัน จะเกิดผื่นแดงที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใส

    -หัดกุหลาบ หรือ ส่าไข้ แต่จะพบในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ 6-12 เดือน และมากกว่า 95% พบในช่วงไม่เกิน 2 ปี โอกาสที่จะเป็นในผู้ใหญ่นั้นน้อยมากๆ

    -การติดเชื้อ HIV ในระยะเฉียบพลันก็ได้ หากได้ไปมีความเสี่ยงมาในช่วง 2-4 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น

    ควรพบแพทย์เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน หากเป็นไข้ออกผื่นจากไวรัสธรรมดา พอไข้ลง ผื่นขึ้นก็จะค่อยๆทุเลาไปเองได้ค่ะ

    ในเบื้องต้นสามารถดูแลรักษาตามอาการไปก่อน เช่น หากมีอาการคัน ก็ให้ทานยาแก้แพ้ เช่น คลอเฟนิรามีน หลีกเลี่ยงการแกะ เกาผื่น หลีกเลี่ยงไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น โดยการไม่ใช่สิ่งของส่วนตัวต่างๆ ร่วมกัน รับประทานยาลดไข้ทุก 4-6 ชัวโมง พักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ