รู้สึกเหมือนปวดเบ่งท้องด้านล่างตลอดเวลา

สวัสดีครับคุณ Sittichok Wenbap อาการปวดท้อง เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ อาการนี้สามารถเป็นกันได้ทุกคนและแม้จะปวดอย่างรุนแรงก็อาจไม่ได้บ่งบอกถึงโรคร้ายแรงเสมอไปครับ 

สาเหตุของอาการปวดท้องที่พบได้บ่อยก็คือ ท้องอืด ท้องผูก หรืออาหารไม่ย่อย แต่ถ้าพบว่ามีอาการผิดปกติใดๆ ต่อไปนี้ร่วมด้วยก็ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนะครับ

• อาการปวดท้องที่รุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
• อาการปวดท้องไม่หายไปหรือกลับมาเป็นซ้ำบ่อยๆ เป็นเวลานาน เกิน 1 สัปดาห์
• มีเลือดออกทางทวารหนักหรืออุจจาระเป็นสีดำร่วมด้วย
• มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนบ่อยๆ หรืออาเจียนเป็นเลือด
• ท้องอืดไม่ถ่ายไม่ผายลมเป็นเวลานานกว่า 2 วัน
• ท้องเสียติดต่อกันเกินกว่า 5 วัน ทานอาการทานน้ำไม่ได้ หรือไม่มีปัสสาวะบ่งบอกว่าขาดน้ำมาก
• รู้สึกแสบเมื่อปัสสาวะหรือปัสสาวะบ่อย
• น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
• ปวดท้องอย่างเฉียบพลันและรุนแรง
• เป็นลมหมดสติหรือหายใจลำบาก
• อาการเจ็บที่หน้าอก ลำคอ หรือไหล่
• อาการปวดร้าวไปถึงกระดูกสะบักพร้อมกับอาการคลื่นไส้
• มีการได้รับบาดเจ็บที่บริเวณท้องมาก่อนไม่นาน
• อาการปวดคงอยู่นานเกินกว่า 2-3 ชั่วโมง
• มีไข้สูง

ทั้งนี้ เนื่องจากอาการปวดทั้งนั้นเป็นอาการที่ไม่เจาะจงว่าเกิดจากระบบหรืออวัยวะใด ด้วยข้อมูลที่มี หมอจึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าอาการปวดท้องของคุณนั้น เกิดมาจากสาเหตุใดครับ หากมีอาการเหมือนข้างต้นคุณควรไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ซักประวัติให้ละเอียด และตรวจร่างกาย รวมทั้งอาจจะต้องใช้การตรวจพิเศษอื่นๆเพื่อช่วยในการวินิจฉัยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องครับ เพราะว่าอาการบวดท้อง บางครั้งก็เป็นอาการเริ่มต้นของโรคร้ายแรงได้เช่นกันครับ อาธิเช่น

• ไส้ติ่งอักเสบ
• ลำไส้อุดตัน
• โรคหลอดเลือดแดงเอออร์ตาโป่งพองในช่องท้องหรือแตก
• กรดไหลย้อนหรือโรคกระเพาะ
• นิ่วในถุงน้ำดี หรือถุงน้ำดีอักเสบ 
• ตับอ่อนอักเสบ
• โรคกระเพาะ
• ลำไส้ขาดเลือดเฉียบพลัน
• มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ และอวัยวะอื่น ๆ
• กล้ามเนื้อฉีก
• โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะเป็นต้นครับ

การดูแลตนเองเบื้องต้นเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้องทำได้โดย ถ้ามีท้องสีย ให้หมั่นจิบน้ำหรือของเหลว อาจดื่มเกลือแร่เสริม หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็ง ๆ หากพอเริ่มทานอาหารได้ ให้เริ่มจากการรับประทานอาหารชนิดอ่อน ๆ เช่นโจ้ก ในปริมาณน้อยก่อนและเลี่ยงอาหารที่ทำจากนมทั้งหลาย

ถ้ามีอาการปวดท้องมากยิ่งขึ้นหลังจากการรับประทานอาหาร อาจรับประทานยาลดกรดเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกแสบร้อนกลางอกหรืออาหารไม่ย่อย หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมทั้งหลาย หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือยาแก้อักเสบชนิดอื่น ๆ รวมถึงยาแก้ปวดโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ครับ