อายุ 13 ปี ปวดท้องบ่อยเป็นๆหายๆ และมีท้องผูกเป็นๆหายๆ เสี่ยงเป็นมะเร็งมั้ยไหม เป็นมา 3-4 เดือนแล้ว

สวัสดีค่ะ คุณ รัชนีกร แก่นสวาท,

                      การมีท้องผูกเป็นๆ หายๆ หากเกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดภาวะอุจจาะตกค้างอยู่ในลำไส้ได้ ซึ่งจะทำให้มีอาการต่างๆ ได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกว่าอุจจาระไม่สุด หรืออุจจาระไม่หมดท้อง ปัสสาวะบ่อยจากการที่กระเพาะปัสสาวะถูกกดทับ  ปวดหลังส่วนล่าง หายใจติดขัด ทานอาหารได้น้อย เบื่ออาหาร  ขมคอ เรอเปรี้ยว ผายลมบ่อย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นต้น

                       ดังนั้น อาการปวดท้องบ่อยๆ ก็อาจเป็นผลมาจากการที่มีท้องผูกบ่อยๆ ได้ ส่วนโรคมะเร็งลำไส้นั้น หาอายุเพียง 13 ปี โอกาสเป็นแทบไม่มี และอาการของมะเร็งลำไส้ จะมีปวดท้องแบบต่อเนื่องเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้หนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน ท้องผูกสลับท้องเสีย เป็นต้น

                       ในเบื้องต้น ควรพยายามอย่าให้มีท้องผูก โดยการฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังตื่นนอน ประมาณ 5-7 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ฝึกเบ่งถ่ายอุจจาระอย่างถูกวิธี  โดยนั่งบนโถชักโครกแล้วโค้งตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย และควรมีที่วางเท้าให้เหนือจากพื้น เพื่อออกแรงเบ่งอุจจาระได้ดีขึ้น และอาจใช้มือกดท้องด้านซ้ายล่างขณะขับถ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนตัวได้ดีขึ้น ไม่ควรเกร็งตัวขณะถ่าย ลดอาหารที่มีไขมันสูง เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ อย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน ไม่กลั้นอุจจาระเด็ดขาด ควรขับถ่ายทันทีที่ปวด หากยังไม่ปวดอุจจาระแต่จำเป็นต้องออกนอกบ้าน ไม่ควรพยายามเบ่งขณะที่ยังไม่ปวด เนื่องจากการเบ่งอุจจาระแรงๆ เป็นการกระตุ้นและเพิ่มแรงดันในลำไส้  หากทำบ่อยๆ อาจทำให้ลำไส้โป่งพอง เกิดริดสีดวงทวารได้ ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นค่ะ

                        แต่หากยังคงมีท้องผูกเกิดขึ้นบ่อยๆ หรืออาการท้องผูกนานๆ เป็นสักครั้ง แต่ยังคงมีอาการปวดท้องบ่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ