มีอาการปวดท้องเป็นเวลา 3 วัน เป็นลักษณะของไส้ติ่งอักเสบหรือไม่

สวัสดีค่ะ คุณ Bismo S Hadi, 

                   อาการไส้ติ่งอักเสบนั้น จะเกิดอาการปวดท้องขึ้นอย่างเฉียบพลันทันที โดยเริ่มที่บริเวณรอบสะดือก่อน ต่อมาย้ายไปปวดที่ท้องด้านล่างขวา อาการปวดจะรุนแรงเรื่อยๆ ภายใน 1-2 วัน และมักมีไข้ร่วมด้วย อาจมีท้องเสีย ท้องอืด อาเจียน ปัสสาวะผิดปกติร่วมด้วย ดังนั้น หากปวดมา 3-4 วันแล้ว ำก็ไม่น่าใช่อาการของไส้ติ่งอักเสบค่ะ

                   ซึ่งสาเหตุของอาการปวดท้องนั้นมีมากมาย แบ่งตามตำแหน่งออกได้เป็น

               1. เป็นบริเวณด้านขวาบน สาเหตุ ได้แก่

                  - ตับอักเสบ ท่อน้ำดีอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ แต่มักจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย และอาจมีไข้ร่วมด้วย

                  - การอักเสบของลำไส้ส่วนที่อยู่บริเวณช่องท้องขวาด้านบน มักมีอาการถ่ายอุจจาระเหลว คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

               2. เป็นบริเวณด้านขวาล่าง สาเหตุ ได้แก่

                   -  ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านขวาล่างอักเสบ

                   -  ปีกมดลูกด้านขวาอักเสบ มักมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

                   -  มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา 

                  3. เป็นบริเวณด้านซ้ายบน อาจเกิดจาก

                   - โรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะรู้สึกปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน อาการปวดอาจเป็นเวลาหิวก่อนทานอาหาร หรือหลังทานอาหารไปแล้วก็ได้ นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                   - กรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอกร่วมด้วย มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น

                   4.เป็นบริเวณด้านซ้ายล่าง อาจเกิดจาก

                  - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านซ้ายล่างอักเสบ มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลวร่วมด้วย

                  - ปีกมดลูกด้านซ้ายอักเสบ มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย 

                   หากอาการปวดท้องยังคงเป็นอยู่ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ