ประจำเดือนไม่มาเกิน 10 วัน มีปวดท้อง ปวดหลังร่วมด้วย มีโอกาสท้องหรือเป็นโรคอะไรไหม

 สวัสดีค่ะ คุณ Namthip,

               หากมีประจำเดือนมานานกว่า 10 วัน ร่วมกับมีอาการปวดท้อง อาจเกิดจาก

               1. การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น แท้งคุกคาม แท้งไม่ครบ ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น 

             2. จากการใช้ฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด  รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น 

             3. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ซีสต์ที่รังไข่ เนื้องอกที่รังไข่ มะเร็งรังไข่ เป็นต้น

              4. การทำงานผลิตฮอรโมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะที่มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) 

             5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ เป็นตับแข็ง ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

             หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้การคุมกำเนิด ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ หากไม่ได้ตั้งครรภ์ และยังคงมีประจำเดือนมานานเกิน 7 วัน ระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนน้อยกว่า 21 วัน หรือมีประจำเดือนมามาก หรือมีปวดท้องน้อยมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ ไม่ควรปล่อยละเลยไป เนื่องจากจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ค่ะ

             สำหรับอาการปวดท้อง มีได้หลายสาเหตุ อาจเกิดจากสาเหตุจากการมีความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่เช่นเดียวกับที่ทำให้ประจำเดือนมานานกว่าปกติ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น อาการท้องอืด หรือท้องผูก ก็ย่อมทำให้มีอาการแน่นท้อง ปวดท้องได้ค่ะ

             ในเบื้องต้น พยายามอย่าให้ท้องผูก โดยการทานน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หลีกเลี่ยงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอื่นๆ เพราะอาจทำให้ท้องอิดและท้องผูกได้ ทานอาหารที่มีกากใยสูง ซึ่งก็คือผักและผลไม้ต่างๆ หรืออาจทานยาหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฟเบอร์ช่วยเสริม ลดอาหารที่ย่อยยากประเภทเนื้อสัตว์ ของทอง ของผัดต่างๆ หาเวลาออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา เป็นต้น