ประจำเดือนมา 2 ครั้งต่อเดือน ร่วมกับปวดศีรษะข้างขวาและแขนชา เป็นอะไรหรือเปล่า

สวัสดีค่ะ คุณ ผญ. เปื้อนฝุ่น,

               เมื่อนับระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนของเดือน พ.ย. กับ ธ.ค. และ ธ.ค. กับ ม.ค. พบว่านับได้ 21 วันในทั้ง 2 ครั้ง และจำนวนวันที่ประจำเดือนมานับได้ 6 วันทั้ง 2 ครั้งซึ่งยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่หากระยะห่างระหว่างรอบเดือนเริ่มน้อยกว่า 21 วัน หรือมีเลือดออกมากกว่า 7 วัน หรือมีปริมาณเลือดออกเยอะ  จะถือเป็นอาการที่ผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

               1. การตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น ท้องนอกมดลูก แท้งคุกคาม แท้งไม่ครบ ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น 

               2. จากการใช้ฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด เป็นต้น

               3. มีความผิดปกติที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ เป็นต้น

               4. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ เป็นตับแข็ง ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น หรือการใช้ยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น

               ดังนั้นแนะนำให้สังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนค่ะ หากในรอบต่อไป นับระยะห่างได้น้อยกว่า 21 วัน หรือมีเลือดออกนานกว่า 7 วัน หรือมีเลือดประจำเดือนออกเยอะจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ 

               ในระหว่างที่มีประจำเดือน หรือช่วงก่อนมีประจำเดือนอาจมีอาการไม่สบายทางร่างกายได้หลายๆอย่าง ซึ่งอาการปวดศีรษะและการเป็นตะคริวตามกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกเหน็บชา ก็เป็นอาการที่สามารถพบได้ค่ะ

                  แต่หากอาการปวดศีรษะเป็นต่อเนื่องแม้ประจำเดือนหมดไปแล้ว อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ซึ่งมีมากมายค่ะ หากปวดรุนแรงก็ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ หรือหากอาการชาแขนที่เป็น คือการรับความรู้สึกของแขนน้อยลง จับสิ่งของแล้วของหล่นจากมือ จับช้อนส้อมไม่ได้ เขียนหนังสือไม่ได้ ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช่นกันค่ะ