ถามแพทย์

  • มักมีเลือดออกช่วงกลางเดือนประมาณ 1-2 วัน ได้เริ่มกินยาคุมกำเนิด แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ช่วงมีประจำเดือนไหม จะท้องไหม

  •  Tiozz
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ ต้องรบกวนหน่อยนะคะ 

    หนูเพิ่งจะเริ่มหัดกินยาคุมครั้งแรกค่ะ แบบ 28 เม็ดของ เมโลเดีย ตอนซื้อมาเภสัชที่ร้านแนะนำว่าควรกินตอนประจำเดือนมาวันแรก แต่หนูเองเป็นคนชอบมีเลือดออกกลางเดือนอยู่แล้ว แบบที่ไม่ใช่ประจำเดือนน่ะค่ะ จะมาซัก1-2 แบบนิดๆ แล้วก็จะหายไป เคยไปตรวจภายในมาแล้วค่ะ ก็ไม่มีอะไรผิกปกติ

    ทีนี้หลังจากเลือดออก(ซึ่งตอนนั้นหนูคิดว่าน่าจะเป็นประจำเดือนหนู)หนุเลยทานยาคุมเม็ดแรกเข้าไป แต่หลังจากนั้นประจำเดือนหนูก็หายไปเลย(เลยไม่แน่ใจว่านั่นใช่ประจำเดือนหนูรึเปล่า) พอทานไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็เริ่มมีอะไรกับแฟนแล้วไม่ได้สวมถุงยางค่ะ หลั่งในด้วย อยากทราบว่าเคสทานเข้าไปแล้วประจำเดือนหายนี่ปกติมั้ยคะ ? เพราะเราก็พยายามทานตั้งแต่วันแรกเพื่อให้ได้ผลลัพที่ดีที่สุด แล้วหลังจากทานไป 2 อาทิตย์แล้วเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตามที่บอกข้างต้น จะมีโอกาศท้องมั้ยคะ ? 

    ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ 

    สวัสดีคะ่ คุณ Tiozz,

                         เลือดที่ออกจากช่องคลอดในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน หากมีปริมาณเพียงเล็กน้อยและมาเพียง 1-2 วันดังกล่าว อาจเป็นเลือดออกในวันไข่ตกได้ ซึ่งในบางราย อาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยได้ เรียกว่า mid cycle pain หรือ Mittelschmerz และอาจมีอาการอื่นๆ ได้อีก เช่น เจ็บเต้านม คลื่นไส้ ไวต่อกลิ่นต่างๆ ตกขาวเป็นมูกใสมากขึ้น ความต้องการทางเพศมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งหากเคยได้ไปตรวจภายในมาแล้ว ไม่พบความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ ก็น่าจะเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกได้ค่ะ

                         สำหรับการทานยาคุมกำเนิดนั้น ควรในภายใน 1-5 วันนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา ยาคุมจึงจะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที แต่หากไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกใช่ประจำเดือนไหม และได้ทานยาคุมไปแล้ว โดยทานต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมกำเนิดก็จะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้วค่ะ โดยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% แต่ก็ไม่ใช่ 100% ดังนั้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์จึงยังอาจมีได้ แต่ก็ถือว่าน้อยมาก

                          

    Tiozz  Tiozz
    สมาชิก

    ขอบคุณมากค่ะคุณหมออ