ถามแพทย์

  • ทั้งคุณแม่อายุ 45 ปี และตนเองอายุ 19 ปี เคยเป็นโรคอีสุกอีใส จะเป็นงูสวัดไหม แล้วจะต้องดูแลตนเองอย่างไร

  •  Oil.l
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ คือ อยากทราบว่าตอนป.6 หนูเคยเป็นโรคอีสุกอีใส และทราบมาว่าเชื้อนี้จะอยู่ที่ปมประสาทเรา และเมื่อร่างกายเราอ่อนแอมันจะก่อให้เกิดโรคงูสวัด และตอนนี้หนูมีอายุ19ปี หนูจะเป็นโรคนี้ไหมค่ะ และคุณแม่ก็เคยเป็นโรคอีสุกอีใสเหมือนกัน คุณแม่อายุประมาณ 45ปี แบบนี้มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนค่ะ หรือว่าคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสทุกคนจะต้องเป็นโรคงูสวัดทุกคนเลย หรือมันแล้วแต่การดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคลค่ะ
    Oil.l  Oil.l
    สมาชิก
    คือหนูทราบมาว่ามันเชื้อเดียวกัน เลยกังวลใจน่ะค่ะ และมีวิธีการป้องกันการดูแลตัวเอง หรือ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ไหม นอกจากการฉีวัคซีนเพราะหนูไปค้นหาดูว่าให้คนที่อายุประมาณ50-60ปี ฉีดได้แค่นั้นนะค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Oil.l,

                          งูสวัด (Shingles) คือโรคติดเชื้อไวรัส มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคอีสุกอีใส หากเชื้อชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อก็จะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส และเมื่อหายเป็นปกติแล้ว เชื้อดังกล่าวจะเข้าไปอยู่บริเวณปมประสาทของร่างกาย และเมื่อร่างกายอ่อนแอ  เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่มีความเครียดสะสม ผู้ที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน หรือผู้สูงอายุที่ร่างกายเสื่อมลง เป็นต้น ก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้เชื้องูสวัดแบ่งตัวได้มากขึ้น เชื้อก็จะออกจากปมประสาทและทำให้เกิดโรคที่ผิวหนังตามเส้นประสาทของผมประสาทนั้นๆ  ซึ่งเรียกว่า งูสวัด 

                         โดยมากแล้ว แม้จะเคยเป็นอีสุกอีใสในวัยเด็กมาก่อน  แต่งูสวัดมักจะปรากฏเมื่ออายุมากแล้ว ทั้งนี้ ในบางรายอาจไม่เป็นก็ได้ค่ะ ดังนั้น หากอายุ 19 ปี รวมถึงคุณแม่ที่อายุ 45 ปี จึงยังไม่จำเป็นต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัดค่ะ 

                         วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดนั้น จะแนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่นโรคไตเรื้อรัง หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยการฉีด 1 เข็มจะป้องกันได้ประมาณ 10 ปี ค่ะ