จูบ ประโยชน์และความเสี่ยงต่อสุขภาพ

จูบ เป็นการแสดงความใกล้ชิดทางกายอย่างหนึ่งที่คู่รักใช้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อกัน นอกจากความรู้สึกดีและความสุขที่ได้รับแล้ว การจูบอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายประการ เช่น ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการเจ็บปวด หรือแม้แต่ป้องกันฟันผุได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การสัมผัสกันทางริมฝีปากนั้นก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากโรคติดต่อได้เช่นกัน

1555 จูบ Resized

ประโยชน์ของการจูบ

จูบอาจช่วยป้องกันฟันผุ การจูบอาจมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการบ้วนปาก โดยศูนย์การเรียนรู้ด้านทันตกรรมทั่วไปแห่งสหรัฐอเมริการะบุว่า น้ำลายจากการจูบแบบดูดดื่มนั้นจะช่วยเคลือบฟันและขจัดแบคทีเรียออกจากฟัน ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการเกิดคราบหินปูนได้

จูบอาจช่วยให้รู้สึกดี ในขณะที่จูบ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนหลายชนิด เช่น โดพามีน (Dopamine) เอนดอร์ฟิน (Endorphins) ออกซิโทซิน (Oxytocin) เป็นต้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรักที่ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศและปรับสภาพอารมณ์ให้ดีขึ้น

จูบอาจช่วยลดความเครียด การสัมผัสร่างกายและการจูบจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยงานวิจัยหนึ่งได้ให้ผู้ร่วมทดลองจำนวน 52 คน จูบกับคนรักทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งหลังการทดลองพบว่า อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองรู้สึกใกล้ชิดกับคนรักมากขึ้นและยังรู้สึกเครียดน้อยลงอีกด้วย

จูบอาจช่วยเผาผลาญแคลอรี่ นักวิจัยคาดว่าการจูบแบบดูดดื่มนั้นช่วยบริหารใบหน้าได้ โดยช่วยเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 2-5 แคลอรี่ อย่างไรก็ตาม ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพโดยรวมด้วย

จูบอาจช่วยบรรเทาอาการปวด การจูบจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟินและสารเคมีต่าง ๆ ที่ช่วยให้รู้สึกดี โดยมีผลพิสูจน์ว่าสารเคมีเหล่านี้อาจมีประสิทธิภาพมากกว่ามอร์ฟีน (Morphine) ที่ใช้สำหรับระงับอาการปวด

จูบอาจช่วยลดความดันโลหิต การจูบนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด โดยงานวิจัยหนึ่งพบว่าการจูบช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้ค่าความดันโลหิตลดลง ซึ่งอาจช่วยป้องกันภาวะความดันโลหิตสูงที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

จูบอาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน งานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่า การจูบนั้นมีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (Cytomegalovirus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นแสดงให้เห็นว่า การจูบกับคนรักเป็นเวลา 30 นาที ช่วยลดอาการแพ้จากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบ และโรคจมูกอักเสบที่เป็นภูมิแพ้ตามฤดูได้

การจูบส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ ?

งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการจูบเพียงแค่ 10 วินาที สามารถแพร่เชื้อแบคทีเรียจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนได้ประมาณ 80 ล้านตัว ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมการจูบของคู่รัก 21 คู่ พบว่าคู่รักที่มีการสัมผัสริมฝีปากกัน 9 ครั้งต่อวัน จะมีแบคทีเรียในช่องปากเหมือนกันมากกว่าคู่อื่น ๆ

นอกจากนี้ การจูบยังสามารถส่งผ่านเชื้อไวรัสและเชื้อโรคได้ นอกเหนือจากโรคหวัดที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางน้ำลายแล้ว โรคติดต่อร้ายแรงอื่น ๆ ก็สามารถติดต่อกันผ่านการจูบได้เช่นกัน ดังนี้

  • โรคไวรัสตับอักเสบ บี แม้ว่าโรคดังกล่าวมักจะติดต่อกันผ่านทางเลือด แต่ก็สามารถติดต่อผ่านทางน้ำลายได้ โดยเฉพาะเมื่อจูบกับผู้ที่มีแผลในปาก
  • โรคเริม เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus) ซึ่งสามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด หรือการสัมผัสของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำลาย และน้ำเหลือง เป็นต้น
  • โรคหูด เป็นโรคผิวหนังที่มักเกิดกับอวัยวะเพศหรือทวารหนัก แต่ยังสามารถเกิดขึ้นบริเวณริมฝีปากได้เช่นกัน โดยอาจติดต่อกันผ่านการจูบได้

อย่างไรก็ตาม การจูบอาจไม่อันตรายเสมอไปหากมีความระมัดระวัง รักษาสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการจูบในขณะที่ตนหรือคนรักป่วย เพื่อความปลอดภัย