ปวดท้องมา 3 เดือนแล้ว เป็นทั้งก่อนและหลังทานอาหาร หาหมอทานยายังไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร

สวัสดีคะคุณsoontraporn

อาการปวดท้อง ในตอนแรกมาด้วยเรื่องของการปวดท้องด้านบนขวา ซึ่งอาการปวดมักอาจจะเป็นเกี่ยวกับตับ หรือ ลำไส้เล็กส่วนต้น ถุงน้ำดี ค่ะ เนื่องจากตำแหน่งที่เรียนมานะค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นอะไรได้บ้างค่ะ

1. แผลในลำไส้ส่วนต้น ต้องได้การตรวจเพิ่มเติมว่ามีเรื่องของการติดเชื้อ H.pylori  ถ้ามีต้องได้รับยารับประทานต่อเนื่อง สองสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาลดกรดในกระเพาะอาหารค่ะ 
2. ก้อนที่ตับ  อาจจะเกิดเป็นก้อนที่เกิดจากการบาดเจ็บ เช่น ถูกกระแทกอย่างแรง หรือ มีอาชีพในเรื่องการเป็นนักมวยมาก่อนก็ได้ค่ะ หรือ อาจจะต้องดูว่าไม่มีปัญหาก้อนที่เป็นเรื่องของมะเร็งที่ตับ หรือ ท่อทางเดินน้ำดีค่ะ 
3. นิ่วในถุงน้ำดี เป็นสาเหตุต้นๆ ที่คนไข้จะมาด้วยอาการปวดท้องด้านขวาบนค่ะ 
4. การติดเชื้อในตับ เช่น เป็นฝีในตับ 
5. การติดเชื้อในถุงน้ำดี ทำให้มีไขั ตัวเหลืองตาเหลืองร่วมด้วยได้ค่ะ 

ซึ่งบางครั้งการรับประทานยาลดกรดอาจจะทำให้อาการทุเลาได้ค่ะ แต่ไม่หายค่ะ เพราะยังไม่ได้รักษาที่สาเหตุค่ะ และทำการรักษาตามสาเหตุค่ะ

ต่อมามีอาการย้ายการปวดไปด้านซ้าย คราวนี้คงต้องมาดูเรื่องของกระเพาะอาหารค่ะ และหลอดอาหารก็ยังเป็นได้ค่ะ

ตอนนี้ถ้าได้รับการรักษาแบบประคับประคองแล้วอาการไม่ดีขึ้นอาจจะมีความจำเป็นต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเช่น การกลืนแป้ง หรือ การส่องกล้องค่ะ แนะนำพบอายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารค่ะ