การป้องกัน โรคหัวใจ
การป้องกันโรคหัวใจสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นตามข้อปฏิบัติต่อไปนี้
- ตรวจวัดระดับคลอเรสเตอรอล ผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่ควรเริ่มตรวจคลอเรสเตอรอล หลังจากนั้นตรวจเป็นประจำทุก 5 ปี หรือในรายที่มีบุคคลในครอบครัวมีคลอเรสเตอรอลสูงอาจต้องเริ่มตรวจเร็วขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงทางพันธุกรรม หากมีคลอเรสเตอรอลสูง แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจบ่อยยิ่งขึ้น โดยระดับคลอเรสเตอรอลปกติควรต่ำกว่า 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจควรมีระดับไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือหากเคยมีอาการของโรคหัวใจหรือเบาหวานเกิดขึ้นแล้วก็ควรควบคุมคลอเรสเตอรอลให้ต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ควบคุมระดับความดันโลหิต ควรตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำอย่างน้อยทุก 1-2 ปี หรือในรายที่มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติหรือเคยป่วยเป็นโรคหัวใจมาก่อน แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจบ่อยกว่านั้น โดยระดับความดันปกติควรอยู่ที่ 120/80 มิลลิเมตรปรอท
- ควบคุมอาการของโรคเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินพอดี จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้
- เลิกสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดโรคหัวใจ โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดแดง
- หมั่นออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยควบคุมน้ำหนักและโรคเบาหวาน รวมถึงลดระดับคลอเรสเตอรอลและระดับความดันที่สูงลง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก ผลไม้ และธัญพืชทั้งหลายล้วนเป็นอาหารที่ดีต่อหัวใจ และมีไขมันอิ่มตัว คลอเรสเตอรอล โซเดียม และน้ำตาลปรุงแต่งต่ำ จึงมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก รวมถึงระดับความดันโลหิตและระดับคลอเรสเตอรอล
- ควบคุมน้ำหนัก ยิ่งมีน้ำหนักตัวเกินพอดีก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงโรคหัวใจ เพื่อป้องกันจากโรคหัวใจควรมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่เกิน 25 และมีขนาดรอบเอวไม่เกิน 80 เซนติเมตรหากเป็นผู้หญิง และสำหรับผู้ชายไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร
- รักษาความสะอาด อยู่ให้ห่างจากผู้ป่วยติดเชื้อ ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ล้างมือบ่อย ๆ และหมั่นรักษาความสะอาดของร่างกายและสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ
- รู้วิธีรับมือกับภาวะซึมเศร้า ภาวะซึมเศร้าก็ส่งผลให้เสี่ยงโรคหัวใจได้ ผู้ป่วยจึงควรพูดคุยปรึกษากับแพทย์หากมีอาการหดหู่ เช่น รู้สึกสิ้นหวังหรือหมดความสนใจในการใช้ชีวิต เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนอย่างโรคหัวใจรวมถึงโรคอื่น ๆ ตามมา
- รู้จักจัดการกับความเครียด หมั่นผ่อนคลาย ให้มีความเครียดน้อยที่สุด อาจลองฝึกวิธีลดความเครียด เช่น ฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ และนั่งสมาธิ