ประโยชน์ของอะโวคาโด ฮีโร่เพื่อสุขภาพ

อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 20 ชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งประโยชน์ของอะโวคาโดนั้นมีหลากหลายด้าน เช่น บำรุงสมอง บำรุงดวงตา ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น 

อะโวคาโดมีรสจืดและมีไขมันสูง โดยอะโวคาโดปริมาณ 100 กรัม มีไขมัน 15 กรัม แต่ในความจริงแล้ว การรับประทานอะโวคาโดนั้นไม่ได้ทำให้อ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะไขมันในอะโวคาโดจัดเป็นไขมันชนิดที่ดี อีกทั้งยังมีน้ำตาลน้อยและมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

อะโวคาโด

ประโยชน์ของอะโวคาโดต่อสุขภาพ

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์สูง เมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยบำรุงสุขภาพในด้านต่อไปนี้

เป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดดี

อะโวคาโดมีไขมันชนิดดี คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated fatty acids) ถึง 70% ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดง เพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด เช่น คอเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (Low Density Lipoprotein-LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

บำรุงระบบประสาทและสมอง

หนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องใช้แรงกายแรงสมองในการทำงาน ควรรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ เพราะในอะโวคาโดมีกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ซึ่งมีผลดีและจำเป็นต่อระบบประสาทและสมอง โดยกรดไขมันชนิดนี้อาจช่วยลดความเหนื่อยล้าของสมอง และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองได้ดีมากยิ่งขึ้น

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

ในอะโวคาโดมีวิตามินอี ซึ่งมีฤทธิ์ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ เพราะในอะโวคาโดมีลูทีน (Lutien) เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่พบว่าสารสกัดอะโวคาโดอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ แต่การศึกษาเหล่านี้เป็นเพียงการศึกษาในหลอดทดลองและมีข้อจำกัดค่อนข้างมากจึงไม่สามารถยืนยันสรรพคุณในข้อนี้ได้

บำรุงและรักษาดวงตา

ในอะโวคาโด มีสารลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางดวงตาหลายชนิด ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม

มีโพแทสเซียมสูง

ในอะโวคาโด 100 กรัม จะมีโพแทสเซียมสูงถึง 14% และกล้วยจะมีโพแทสเซียมอยู่ 10% ซึ่งจากการวิจัยพบว่า หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากพอจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ นอกจากนั้นโพแทสเซียม ยังมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำ กรด-ด่างในร่างกายของเราอีกด้วย

มีไฟเบอร์สูง

อะโวคาโดครึ่งลูกมีไฟเบอร์ 6-7 กรัม โดยแต่ละคนมีความต้องการไฟเบอร์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ในหนึ่งวัน ผู้หญิงควรได้รับไฟเบอร์ 25 กรัม และผู้ชายควรได้รับไฟเบอร์ 38 กรัม รับประทานอะโวคาโดแค่ครึ่งลูกก็เกือบได้ไฟเบอร์ในปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันแล้ว

อะโวคาโดมาพร้อมกับประโยชน์ที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว และสามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างหลากหลายด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประโยชน์ของอะโวคาโดต่อสุขภาพนั้นจะมีมากมาย แต่ก็มีสรรพคุณบางข้อควรได้รับการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อยืนยันถึงประโยชน์และความปลอดภัยในการรับประทานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

การบริโภคอะโวคาโดในปริมาณที่เหมาะสมนั้นค่อนข้างปลอดภัย โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานอะโวคาโดไม่เกิน 1 ผลต่อวัน เพราะเป็นผลไม้ที่ให้ไขมันและพลังงานสูง แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยาง (Latex Allergy) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเพราะผลอะโวคาโดมียางเป็นส่วนประกอบจึงอาจเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่เป็นอันตรายได้