ทรามาดอล
ทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มยาระงับปวด โดยนิยมใช้ในกรณีที่มีอาการปวดค่อนข้างรุนแรง เป็นยาที่จัดอยู่ในยาอันตรายและเป็นยาที่จ่ายได้ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น ทั้งนี้กลไกการทำงานของยาทรามาดอล เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายแล้วตัวยาจะเข้าไปสั่งการสมองและระบบประสาทให้คลายความเจ็บปวดลง
เกี่ยวกับยาทรามาดอล
กลุ่มยา | ยาระงับปวด (Analgesic) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาอันตราย |
สรรพคุณ | ลดอาการปวดระดับปานกลางจนถึงระดับรุนแรง |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ |
รูปแบบของยา | ยาเม็ด ยาฉีด |
คำเตือนการใช้ยาทรามาดอล
- ห้ามใช้ยาทรามาดอลโดยไม่ได้รับคำแนะนำ หรือคำสั่งจากแพทย์ เพราะยาชนิดนี้ถือเป็นยาอันตราย
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาทหรือสารเสพติดก่อนใช้ยาชั่วระยะหนึ่ง และห้ามรับประทานยาทรามาดอลพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
- ห้ามใช้ยาทรามาดอลติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาเกินขนาดได้
- การใช้ยาติดต่อกันนานเกินกว่าที่แพทย์สั่งจะทำให้เกิดการเสพติดได้
- ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคลมชัก หรือมีประวัติการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือเคยมีอาการชักห้ามใช้ยาโดยเด็ดขาด
- การใช้ยาเกินขนาดอาจทำให้เสียชีวิตได้
- การใช้ยาทรามาดอลร่วมกับยาบางชนิดเช่น ยารักษาอาการทางจิต ยารักษาระบบประสาทอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวกับอาการทางระบบประสาทได้ จึงควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- ห้ามใช้ยาดังกล่าวกับเด็กโดยเด็ดขาดยกเว้นกรณีแพทย์สั่ง
ปริมาณการใช้ยาทรามาดอล
ยารับประทาน
- ผู้ใหญ่ 50-100 มิลลิกรัมทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง ไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 75 ปี 50-100 มิลลิกรัม ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม/วัน แบ่งเวลาในการรับประทานยาให้ห่างขึ้น
ยาฉีด (หลังการผ่าตัด)
- ผู้ใหญ่ ให้ครั้งแรก 100 มิลลิกรัม ตามด้วย 50 มิลลิกรัม ทุก 10-20 นาที แต่ปริมาณรวมไม่เกิน 250 มิลลิกรัม ภายใน 1 ชั่วโมง จากนั้นให้ครั้งละ 50-100 มิลลิกรัม ทุก ๆ 4 ชั่วโมง ห้ามเกิน 600 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 75 ปี ปริมาณเท่ากับผู้ใหญ่ แต่แบ่งเวลาการให้ยาให้ห่างขึ้น
ยาฉีด (บรรเทาอาการปวด)
- ผู้ใหญ่ 50-100 มิลลิกรัม ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง ไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้สูงอายุ อายุมากกว่า 75 ปี 50-100 มิลลิกรัม ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม/วัน แบ่งเวลาในการรับประทานยาให้ห่างขึ้น
การใช้ยาทรามาดอล
การใช้ยาทรามาดอลอย่างปลอดภัยที่สุดคือการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรรับประทานมากกว่าปริมาณที่กำหนดเพราะจะทำให้ได้รับยาเกินขนาด อีกทั้งหากมีปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น มีอาการแพ้ยา เป็นโรคตับ โรคไต โรคที่เกี่ยวกับไทรอยด์ ระบบทางเดินปัสสาวะมีปัญหา โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับหัวใจ ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน ต่อมลูกหมาก หรือโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ อีกทั้งหากผู้ป่วยมีอาการแพ้ยา หรือใช้ยาชนิดใดเพื่อการรักษาอยู่ก็ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ในกลุ่มสตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยเด็ดขาด ขณะที่ผู้หญิงที่กำลังวางแผนว่าจะตั้งครรภ์ก็ควรบอกแพทย์ก่อนใช้ยาเช่นกัน เนื่องจากยาทรามาดอลสามารถส่งผลเสียไปถึงทารกในครรภ์ หรือทารกที่ดื่มนมจากแม่ที่ได้รับยาอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต เป็นโรคซึมเศร้า หรือเคยคิดฆ่าตัวตาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาดังกล่าว เพราะยาชนิดนี้อาจส่งผลกระทบต่ออาการทางระบบประสาทและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากใช้ร่วมกับยาบางชนิดยกเว้นกรณีแพทย์สั่ง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาทรามาดอล
ยาทรามาดอลถือเป็นยาอันตรายที่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากผลข้างเคียงของการใช้ยาชนิดนี้ค่อนข้างรุนแรง โดยยาจะกดระบบทางเดินหายใจและมีผลต่อระบบประสาท จากรายงานพบว่าผลข้างเคียงจากทรามาดอลที่พบได้บ่อยได้แก่
- อาการผื่นคันอย่างรุนแรง
- วิตกกังวล
- อาการสั่น กระสับกระส่าย
- ท้องเสีย ท้องผูก
- อาการประสาทหลอน
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เหงื่อท่วม
- นอนไม่หลับ
นอกจากนี้ หากใช้ยาทรามาดอลแล้วมีอาการ แน่นท้อง ปัสสาวะเป็นเลือด ความดันโลหิตสูง แน่นหน้าอก หนาวสั่น หน้ามืด เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก มีอาการชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ รู้สึกเจ็บปวดตามร่างกาย พร่าเลือนจนไม่สามารถทำอะไรได้ หายใจลดลง ควรรีบพบแพทย์ในทันที เพราะนั่นคือผลข้างเคียงที่อันตรายและอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที