ใช้ยา Dermix-4 ทากลากเกลื้อนได้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ punpp,

                 1. โรคกลาก เป็นโรคติดเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (dermatophyte) ที่ผิวหนัง อาการเริ่มแรกมักจะเห็นเป็นตุ่มแดงๆ แล้วค่อยๆ ลามออกไปจนมีลักษณะเป็นวงที่มีขอบเขตชัดเจน มักมีตุ่มน้ำใสเล็กๆ หรือขุยขาวๆ อยู่รอบวง ร่วมกับมีอาการคันมาก 

                สาเหตุของของการเกิด คือผิวหนังเกิดความอับชื้นบ่อยๆ หรือเป็นเวลานาน เช่น ในนักกีฬาที่มีเหงื่อออกมาก หรือผู้ที่ต้องทำงานในที่ร้อน อบอ้าว มีเหงื่อออกตลอดเวลา เป็นต้น หรือสวมกางเกงและกางเกงในที่รัดแน่นเกินไป กางเกงและกางในไม่สะอาด ใส่ซ้ำหลายครั้ง ไม่ซัก ไม่ค่อยอาบน้ำ หรือปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ โรคอ้วน โรคเบาหวาน เป็นต้น

                หากได้รับการวินิจฉัยที่แน่นอนแล้วว่าเป็นโรคสังคัง การรักษาคือการใช้ยาฆ่าเชื้อราทา เช่น คีโตโคนาโซล (ketoconazole), โคลไตรมาโซล (clotrimazole) เป็นต้น โดยทายาวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ แต่หากบริเวณที่เป็นโรคมีขนาดกว้างหรือเป็นเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ บ่อย ก็อาจพิจารณาทานยาฆ่าเชื้อรา

               นอกจากนี้ ควรพยายามรักษาความสะอาดของผิวหนัง อย่าให้เปียกชื้น หากมีเหงื่อออกมาก ควรซับให้แห้งบ่อยๆ หรืออาบน้ำบ่อยๆ และควรเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทุกวัน ไม่ใส่ซ้ำ เลื้อผ้าควรซักและตากให้แห้ง ไม่ใส่กางเกงและกางเกงในที่รัดแน่นเกินไป เป็นต้น

              2. สำหรับโรคเกลื้อน เป็นโรคติดเชื้อราที่ผิวหนังที่ชื่อมาลาสซีเซีย (Malassezia) ซึ่งโดยปกติผิวของคนเรา จะมีเชื้อราชนิดนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อมีเชื้อมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดอาการได้ ลักษณะคือจะเห็นผิวหนังเป็นขุย หรือเห็นเป็นผื่นดวงๆ แบบแบนราบ ซึ่งอาจเป็นสีขาว ชมพู แดง หรือน้ำตาลก็ได้ มักไม่ค่อยคัน การรักษาคือการทายฆ่าเชื้อรา เช่น โคลไตรมาโซล ครีม (clotrimazole) ไมโครนาโซล (miconazole) เป็นต้น โดยทาวันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่อง 1-4 สัปดาห์ นอกจากนี้ ก็พยายามอย่าให้เหงื่อออกมาก หากอากาศร้อน ก็ควรอาบน้ำบ่อยๆ สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นเกินไป หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดที่แรง เนื่องจากจะกระตุ้นให้อาการแย่ลงและเห็นเกลื้อนชัดขึ้น

               ดังนั้น หากได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นกลากหรือเกลื้อน ก็ควรทายาฆ่าเชื้อราดังที่ได้ยกตัวอย่างไป แต่หากยังไม่ได้รับการวินิจฉัย ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจก่อน เพราะหากใช้ยาไม่ตรงกับโรค ก็ย่อมไม่หาย และได้รับผลข้างเคียงไปโดยไม่จำเป็นค่ะ

                    ส่วนยา dermix-4 เป็นยาผสมที่มีทั้งยาสเตียรอยด์ ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา (betamethasone+gentamicin+clioquinol+tolnaftate) ซึ่งหากเราเป็นกลากหรือเกลื้อนอยู่ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้ยาชนิดนี้ซึ่งเป็นยารวมหลายๆ อย่างๆ  ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการแพ้ได้ และเนื่องจากเป็นยาที่มีสเตียรอยด์ผสม การใช้ต่อเนื่องนานไป อาจทำให้การติดเชื้อราแย่ลงได้ค่ะ ดังนั้น หากจะใช้ ก็ไม่แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องนานเกิน 2-3 สัปดาหค่ะ