ถามแพทย์

  • ตรวจเลือดพบว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบี ผมควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

  •  Note Nose Litchanon
    สมาชิก
    เมื่อตอนกลางเดือนเมษานี้มีอาการไข้รุมๆ เวียนหัว ปากซีด หน้ามืด(เป็นอยู่3วัน)และปัสสาวะเป็นสีส้มเข้มมาก(เป็นอยู่2อาทิตย์)แล้วล่าสุดไปตรวจเลือดพบว่าเป็นไวรัสตับอักเสบบี ผมควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ควรกินอะไรเป็นพิเศษเพื่อต่ต้านเชื้อให้หายขาด หรือต้องกินยาต้านรึเปล่าคับ ขอบคุณคับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Note Nose Litchanon

    ไวรัสตับอักเสบ บี มีทั้งแบบระยะเฉียบพลันและแบบระยะเรื้อรังค่ะ

    การรักษาไวรัสตับอักเสบ บี ระยะเฉียบพลัน ในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าได้รับการติดเชื้อตับอักเสบ บี เฉียบพลัน ซึ่งผู้ป่วยมีโอกาสหายได้เองภายในไม่กี่เดือน โดยที่ร่างกายกำจัดและมีการสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา แพทย์อาจแนะนำการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม เช่น การพักผ่อน ดื่มน้ำให้มาก และรับประทานอาหารที่มีโภชนาการสูง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังต่อสู้กับโรค นอกจากนั้นยังพบว่า ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยจะไม่มีอาการที่แสดงชัดเจนมากนัก ในเบื้องต้นผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้น ได้ดังนี้

    • รับประทานยาแก้ปวด (พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน) สำหรับกรณีที่มีอาการปวดท้อง
    • อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้ร่างกายไม่ร้อน ใส่เสื้อผ้าที่ไม่คับเกินไป รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงอาบน้ำร้อน ในกรณีที่เกิดผื่นคัน
    • รับประทานยาบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ยาแก้แพ้เพื่อลดอาการผื่นคัน โดยอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรซื้อยาหรืออาหารเสริมทานเอง

      อย่างไรก็ตาม มีการตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบว่ายังมีไวรัสอยู่หรือไม่ หรือตรวจสอบว่ามีการพัฒนาสู่ไวรัสตับอักเสบ บี เรื้อรัง หรือไม่ การรักษาไวรัสตับอักเสบ บี ระยะเรื้อรัง หากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยแล้วว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ระยะเรื้อรัง ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ตับแข็ง ตับวาย มะเร็งตับ และป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเป็นพาหะนำโรคไปสู่ผู้อื่น โดยการรักษา เช่น การใช้ยาต้านไวรัส ยาอินเตอร์เฟอรอน ขอให้อาการดีขึ้นค่ะ