ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงยางวันที่ 30 ก.ย. ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มา มีอาการเหมือนคนท้อง ควรตรวจครรภ์เมื่อไหร่ ทำอย่างไรให้ประจำเดือนมา

  •  Nancy1889
    สมาชิก

    มีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่30กันยายน ทั้งหมด3ครั้ง ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งและเมื่อแฟนจะถึงจุดสุดยอด เขาก็ดึงออกจากตัวเราและแตกในถุงยาง แต่ตอนที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกถุงยางอนามัยร่นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อพบก็ได้ทำการรูดให้ลงไปสุดโคนเหมือนเดิม ทุกครั้งที่เสร็จจะนำน้ำใส่ถุงยางอนามัยเพื่อตรวจสอบดูว่ารั่วหรือไม่และไม่พบว่ามีน้ำรั่วออกมาใดๆ หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนเสร็จวันต่อมารู้สึกแสบเวลาปัสสะวะและรู้สึกว่าตัวเองฉี่ไม่สุด(ได้ทำการค้นหาอาจจะเป็นโรค Honeymoon disease เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ถี่เกินไปและไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาหลายเดือนแล้ว จึงรับประทานน้ำให้มากขึ้นและไม่กลั้นฉี่ ปัจจุบันวันที่8ตุลาคมอาการดีขึ้นแล้ว) นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บบริเวณหัวนมตั้งแต่วันที่7ตุลาคมและมีอาการเหมือนมีไข้ตั้งแต่วันที่5ตุลาคมคือตัวอุ่นๆน่ะค่ะ ซึ่งเท่าที่อ่านมาจากอินเตอร์ก็พบว่าคนที่กำลังตั้งครรภ์ก็จะมีอุณภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ ตัวของดิฉันเองเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอทุกเดือนทำให้ไม่สามารถทราบแน่ชัดว่าประจำเดือนขาดหรือเลื่อนหรือไม่ อาจจะเกิดความเครียด ไม่ออกกำลังกายและพักผ่อนน้อย(นอนหลังตี2ทุกวัน) แต่เพราะใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งและไม่ได้แตกในถึงแม้จะใส่ถุงยางอนามัยก็ตาม และยังตรวจสอบว่าไม่รั่วแล้วเลยไม่คิดว่าไม่น่าจะท้องหรอกแต่เพราะว่ามีหลายอาการที่เหมือนคนตั้งครรภ์ทำให้รู้สึกวิตกกังวลและเครียดมากๆค่ะ หากจะตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไม่ได้ตั้งครรภ์โดยเครื่องตรวจควรตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ2อาทิตย์ใช่ไหมคะ คือประมาณวันที่14ตุลาคมใช่ไหมคะ ช่วยแนะนำวิธีทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้นด้วยได้ไหมคะ หากรับประทานยาลดไข้จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ 

    สวัสดีค่ะ  

    ส่วนการสวมถุงยางอนามัยในฝ่ายชายเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หากสวมอย่างถูกต้อง ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และป้องกันการตั้งครรภ์

    นอกจากนี้โอกาสการตั้งครรภ์นั้นขึ้นกับช่วงเวลา จะสามารถคาดคะเนได้หากว่ามีประจำเดือนมาสม่ำเสมอเท่านั้น โดยไม่มีการใช้ฮอร์โมนหรือยาใด ๆ ที่ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปจากปกติ โดยช่วงกลางรอบเดือนจะมีการตกไข่ ดังนั้นโอกาสตั้งครรภ์จะสูงกว่าช่วงอื่น ๆ  โดยนับรอบประจำเดือนตั้งแต่ประจำเดือนมาวันแรก จนถึงก่อนประจำเดือนมาวันแรกของครั้งถัดไปค่ะ

    ไม่ควรกินยาหรือฮอร์โมนใด ๆ เพื่อทำให้ประจำมาเร็วขึ้น เนื่องจากอาจทำให้ประจำเดือนผิดปกติได้ ส่วนยาลดไข้ อย่างพาราเซตามอล สามารถรับประทานได้ตามปกติค่ะ แนะนำว่า หากยังสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ