ถามแพทย์

  • รู้สึกความภาคภูมิใจในตนเองลดลง เครียด มีความคิดฆ่าตัวตาย ควรรักษาอย่างไร

  •  Plaifah Pilachai
    สมาชิก
    ฉันอายุ 22 ปี พึ่งจบป.ตรี ด้วยเกรดเฉลี่ยที่สูงพอสมควร หลังจากจบชีวิตเหมือนพลิกกลับคนละด้าน ครอบครัวจากเคยส่งเงินก็ไม่ส่งให้ใช้แล้ว ..ฉันไม่มีเงิน และฉันต้องกลับมาอยู่บ้านในห้องนอนที่ฉันเคยนอนกลับถูกแปรสภาพมาเป็นห้องเก็บของ..ฉันนอนข้างๆ เสื้อผ้า ข้างกล่อง อะไรไม่รู้เต็มไปหมด มันไม่ใช่ห้องนอนอย่างที่ควรจะเป็น ฉันอึดอัดเพราะฉันรักความสะอาดแต่ต้องมานอรกับฝุ่นและฉันก็แพ้คันทุกวัน ..ฉันเก็บห้อง ฉันเอาของที่ไม่น่าจะใช้ไปทิ้ง ..ฉันโดนตำหนิ ฉันโดนโกรธ แต่ไม่มีใครเห็นใจกับสภาพที่ฉันต้องนอนเลยสักคน ฉัน..อยากกินขนม ฉันก็ไม่มีเงินซื้อ ฉันสมัครงาน ..บริษัทติดต่อนัดสัมภาษณ์ฉัน..แม่บอกดิฉันว่า ถ้าอยากไปก็ไปขอเงินตา (ตาและพ่อแม่เราทะเลาะกันเพราะตาแอบขายที่ดินแม่) สรุป..ฉันต้องโทรแคนเซิลงานไป2บริษัท ฉันพลาดงานที่จะทำให้ฉันเติบโต แม่ให้ฉันเลี้ยงหลานที่บ้าน ..และแม่รู้ว่าฉันไม่ชอบเด็กที่ดื้อ ฉันเครียด ฉันเริ่มรู้สึกกลัวการสมัครงาน เพราะถ้าฉันสมัครไปก็ไม่ได้ไปอยู่ดี ฉันรู้สึกน้อยใจในความใส่ใจของครอบครัว พยายามไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น พยายามที่จะมีความสุขแต่มันแค่ชั่วคราวเท่านั้น ฉันถามแม่ว่าทำไมถึงไม่ให้ฉันไปสัมภาษณ์งาน แม่บอกฉันว่า กลัวฉันไม่สามารถมาสอบกพ.ได้ ..ที่ผ่านมาฉันบอกแม่มาตลอดระยะเวลา4ปีว่าฉันไม่อยากทำงานราชการ..แต่ฉันก็สมัครสอบเพื่อความสบายใจของแม่ แม่ชอบพูดย้ำๆว่า สิบกพ.ให้ผ่านแล้วจะได้เป็นข้าราชการ พอฉันบอกว่า สอบกพ.ไม่มีใครสอบครั้งแรกแล้วผ่านหรอกนะ แล้วแม่จะตบท้ายประโยคว่า"ก็ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น รู้อยู่ว่ามันยาก" แม่จะพูดบ่อยมาก ในวันที่ต้องไปสอบกพ. ฉันมีสอบตอนบ่าย2 ฉันบอกแม่แต่เนิ่นๆว่า ช่วยไปส่งฉันขึ้นรถตั้งแต่11โมงเช้านะ เพราะกว่าจะไปถึง กว่าจะหาสถานที่สอบ ห้องสอบ ก็คงมีเวลาเตรียมตัวพอดี.. แม่รู้ว่าฉันสอบวันนี้แต่ก็ยังเลือกที่จะออกไปข้างนอกซึ่งธุระไม่ได้สำคัญมาก ..แม่ไปส่งฉันเวลาบ่ายโมง ฉันไปถึงจังหวัดที่สอบในเวลาบ่าย2 ฉันพลาดการสอบกพ. ฉันพลาดการสมัครงาน ความคิดตีในหัวฉันไปหมด ฉันรู้สึกผิดหวังในตัวเองและรู้สึกว่าล้มเหลวในชีวิตมาก ฉันพยายามทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆในบ้านทีกวันเหมือนหุ่นยนต์ที่ป้อนคำสั่งสำเร็จรูปแล้ว ให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างว่าฉันได้ทำอะไร แต่นั่นมันทำให้ฉันเครียดทึกวันๆโดยไม่สามารถบอกใครได้เลย แม่บอกให้ฉันหางานทำ ..ฉันบอกแม่ว่าอยากทำธุรกิจส่วนตัว ฉันยังไม่อธิบายฉันยังไม่พูดเนื้อหา..ฉันก็ถูกปฏิเสธไปแล้ว ฉันเป็นบุคคลว่างงานจะครบ4เดือนโดยไม่มีเงิน ไม่มีทุน ไม่มีอะไรเลย เดือนนี้มันหนักหนาสำหรับฉันมาก ฉันเริ่มคิดว่าฉันไม่ประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่น ความกล้าหาญที่มี มันหายไป ฉันเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเก็บของที่เป็นที่นอน และนอนร้องไห้ ไร้ค่า ล้มเหลว ไม่ออกพบใคร ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากมีชีวิต ไม่อยากตื่น มันเป็นความคิดที่วนเข้าในหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก และเริ่มบ่อยขึ้น ฉันไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ฉันกลัวเขาจะมองว่าฉันผิดปกติ กลัวคนอื่นจะรู้สึกสมเพชกับตัวฉัน ฉันเริ่มไม่ไว้ใจใครเพราะฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉัน ที่ปรึกษาที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันควรมีขีวิตอยู่ต่อคือแฟนและสุนัขของฉัน แต่ฉันไม่เคยบอกเขาเลยว่าฉันอยากฆ่าตัวตาย ฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ฉันกลัวไปหมด ชีวิตฉันมันมืดมนมาก ฉันพยายามมองหาทางออก ฉันพยายามดึงตัวเองขึ้นมา พยายามร่าเริง แต่สุดท้ายฉันก็กลับมาเจออะไรเดิมๆ ปวดใจเรื่องเดิมๆ และนอนในห้องเก็บของเหมือนเดิม รู้สึกอ่อนแอ ทำไมโรคนี้มันน่ากลัว ฉันกลัวความคิดของฉัน ช่วยฉันด้วยค่ะหมอ ใครก็ได้ ได้โปรดเถอะ

     สวัสดีคะคุณ Plaifah

    ก่อนอื่นนะค่ะ ปัญหาของคุณเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากหน่วยพื้นฐานคือครอบครัวค่ะ หมอไม่แน่ใจในเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวนะค่ะ โดยเฉพาะคุณแม่กับตัวคุณเองค่ะ 

    ตรงนี้อาจจะต้องแก้ไปพร้อมๆ กันค่ะ คือ 

    • ตัวคุณเอง
    • ตัวคุณแม่ หรือ คนในครอบครัว

    ตัวคุณเอง ต้องกลับมาดูก่อนนะค่ะ ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ค่ะ ที่หมอให้กลับมาดูและพิจารณาปัญหาของตัวเองเนื่องจาก ตอนนี้คุณได้เรียนจบแล้วค่ะ ตอนเรียนอยู่จากประวัติน่าจะแยกตัวออกไปอยู่ต่างหากนะค่ะ ซึ่งแสดงว่าคุณมีความรับผิดชอบตัวเองมากในระดับหนึ่งค่ะ แต่ตอนนี้เรียนจบแล้วเหมือนคุณต้องกลับมาเพื่อที่จะพึ่งพิงทางบ้านแบบเต็มตัวเลยค่ะ เพราะถ้าคุณต้องการที่ไปสอบน่าจะสามารถไปเองได้นะค่ะ หรือควรจะทำอะไรได้ด้วยตัวเองค่ะ 

    มาถึงตรงนี้นะค่ะ ถ้าเอาตามหลักเรื่องของพัฒนาการเกี่ยวกับทางจิตวิทยา เหมือนจะมีเรื่องของ regression ความหมายคือ เหมือนจะกลับไปแบบไม่สามารถทำอะไรที่ตัวเองเคยทำได้หรือ อะไรที่เคยรู้แล้วไม่รู้นะค่ะ หรือ ไม่สามารถทำในสิ่งง่ายๆ ที่เคยทำได้ค่ะ

    ซึ่งตรงนี้ต้องมาดูก่อนนะค่ะ ว่าคุณมีปัญหาเรื่องอะไร หรือ ปมอะไรหรือไม่ค่ะ เพราะภาวะเครียดเอง ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้มีเรื่องของ regression ได้ค่ะ ก็จะวนไปวนมานะค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ต้องปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ

     

    ส่วนเรื่องของคุณแม่ หมออ่านจากประวัติ ไม่มีเรื่องของการสนับสนุนซึ่งหมอไม่แน่ใจว่าอาจจะมีประสบการณ์ที่ฝังใจในอดีตเกี่ยวกับคุณ หรือ ความผิดหวังที่เคยมี ทำให้ไม่สนับสนุนและอาจจะเป็นอุปสรรคอีกค่ะ ซึ่งตรงนี้ทั้งคุณและคุณแม่ต้องไปทำเรื่องครอบครัวบำบัดค่ะ 

     

    บุคคลที่สาม คือ คู่รัก ซึ่งหมอไม่เห็นเรื่องบทบาทเลยนะค่ะ ตอนนี้เลยไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คุณไม่สามารถปรึกษาคู่รักได้ค่ะ เพราะปรกติแล้วอาจจะเป็นคนที่คุณน่าจะพึ่งพาได้มากที่สุดค่ะ ดังนั้นตรงนี้ต้องมาย้อนดูเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับคู่รักด้วยค่ะ เพราะอาจจะมีเรื่องของความตึงเครียดอยู่บ้างนะค่ะ  ตอนนี้ทำให้ตัวคุณเองต้องมีเรื่องให้คิดมากขึ้นค่ะ

     

    เรื่องที่ต้องพึงระวังมากที่สุดตอนนี้คือ ความคิดที่จะฆ่าตัวตายค่ะ ดังนั้นหมอแนะนำรีบไปพบจิตแพทย์ค่ะ