ถามแพทย์

  • เหมือนมีอะไรอยู่ในคอ

  •  Kawisaraporn
    สมาชิก
    -เหมือนมีเสมหะอยู่ในคอตลอดเวลา -พูกลำบาก กลืนลำบาก เช่นกลืนน้ำลาย -คอเหมือนมีกลิ่นเหม็น มีรสชาติ ฮึนๆ -เวลากินข้าวมื้อแรก เสดจะไอแล้วมีเสมหะออกมา สีขาวใส สีขาวขุ่น บางครั้งเวลาหายใจเข้าจะมีเสียงครืดๆ ในลำคอ เหมือนคนมีน้ำมูก แต่เสียงออกมาจากลำคอ บางทีพูดอยู่จะมีลมตีขึ้นจมูก ทำให้แน่นจมูก เหมือนคนเป็นหวัดคะ เป็นเพราะอะไรคะ แล้วต้องไปหาหมอเเผนกไหนคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Kawisaraporn,

                       อาการเหมือนมีเสมหะในคอตลอดเวลา อาจเกิดจาก

                      1. เป็นโรคกรดไหลย้อน  ซึ่งเกิดจากการที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาถึงบริเวณลำคอ ทำให้เกิดการระคายเคืองคอและมีเสมหะได้ โดยเฉพาะเมื่อนอนลง หรือหลังทานอาหาร อาการก็จะเป็นได้มากขึ้น และมักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แสบร้อนจากช่วงอกไปจนถึงลิ้นปี่ เจ็บหน้าอก มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ เรอบ่อย เจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น

                       2. ภูมิแพ้อากาศ นอกจากอาการดังกล่าวแล้ว มักมีน้ำมูกใส จาม คันจมูก คันหัวตา เป็นต้น โดยอาการจะเป็นแบบเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ โดยอาการจะกำเริบ เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรหญ้าหรือดอกไม้ สะเก็ดผิวหนังจากสัตว์ ขนสัตว์ เครื่องสำอาง อาหาร เช่น อาหารทะเล นม ถั่ว เป็นต้น รวมถึงอากาศที่เย็น ความเครียด 

                       3. โรคหอบหืด อาจทำให้มีเสมหะในลำคอมากได้ แต่นอกจากนี้ ก็จะมีเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี๊ดๆ ที่จะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ เมื่อสัมผัสกับสิ่งที่ก่อให้เกิดการแพ้ต่างๆ คล้ายกับโรคภูมิแพ้

                         ทั้งนี้ บางรายอาจมีทั้งภูมิแพ้และหอบหืดร่วมกันได้

                        4. ไซนัสอักเสบเรื้อรัง มักทำให้มีอาการน้ำมูกมาก ซึ่งน้ำมูกอาจไหลลงคอ ทำให้รู้สึกเหมือนมีเสมหะตลอดเวลา นอกจากนี้ จะมีอาการคัดจมูก แน่นจมูก การได้กลิ่นลดลง ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ปวดศรีษะ ปวดตามโหนกแก้ม หน้าผาก เป็นต้น

                         5. หลอดลมอักเสบเรื้อรัง แต่มักจะมีอาการไอมากร่วมกับอาการเหนื่อยง่ายด้วย

                        หากยังไม่มีอาการเหนื่อยและไอมาก ในเบื้องต้นควรดูแลแบบโรคภูมิแพ้หอบหืด และกรดไหลย้อนร่วมไปก่อน ได้แก่ การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารแล้วนอนทันที ต้องเว้นระยะอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ ปวดประจำเดือน เป็นต้น  

                         สำหรับการดูแลแบบโรคภูมิแพ้ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ดอกหญ้า ขนสัตว์ เป็นต้น รวมถึงการอยู่ในที่อากาศเย็นเกินไป การอาบน้ำเย็น การดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง เป็นต้น และควรสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นได้ เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดหลับอดนอน ทานอาหารเฉพาะที่มีประโยชน์ ลดความเครียด เป็นต้น

                        แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ โดยอาจไปพบอายุรแพทย์เพื่อตรวจค่ะ