ถามแพทย์

  • เวียนหัวศีรษะ โลกหมุน และอาเจียนบ่อย และปัสสาวะเป็นเลือด เกิดจากอะไร

  •  nnnfffon
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ วันนี้มาขอคำปรึกษาให้คุณยายค่ะ คุณยายมีอาการเวียนหัวศรีษะค่ะ โลกหมุน และอาเจียนบ่อย และฉี่เป็นเลือดค่ะ ดิฉันได้พาคุณยายไปหาหมอ แจ้งหมอแล้วด้วยเรื่องหารฉี่ปนเลือด แต่คุณหมอก็ไม่พูดถึงค่ะ พูดเพียงแต่ว่าอาการไม่หนัก ถ้าหนักปากจะเบี้ยว ดิฉันเลยไม่เข้าใจว่าต้องหนักขนาดไหนถึงจะตรวจให้ละเอียดได้ เพียงแต่ฉีดยาให้และให้กลับบ้านค่ะ กลัยบ้านมาก็ยังมีอาการอยู่ ยาที่ได้มาเป็นยาแก้คลื่นไส้อาเจียน และยาช่วยให้นอนหลับ แต่ไม่มียาอะไรที่มีความเชื่อมโยงถึงการฉี่เป็นเลือดแม้น้อย อยากให้คุณหมอชี้แจงเกี่ยวกับอาการของคุณยายให้หน่อยค่ะ ว่าท่านเป็นอะไร รักษาและดูแลอย่างไร ขอบพระคุณมากค่ะ
    nnnfffon  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ nnnfffon

     

    อาการเวียนหัวศีรษะ โลกหมุน และอาเจียนบ่อย และปัสสาวะเป็นเลือด อาจจะต้องแยกกัน กล่าวคือเวียนหัวศีรษะ โลกหมุน และอาเจียนบ่อย อาจมีสาเหตุจาก ภาวะน้ำในหูไม่เท่ากัน ทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุนได้ หรือเป็นโรคของหูอื่นๆเช่น  ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน หูชั้นในอักเสบจากการติดเชื้อของหูชั้นกลาง  การเปลี่ยนท่าทางที่เร็วเกินไป หรืออย่างที่แพทย์กล่าวถึงอาจหมายถึงกลุ่มเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งมักจะมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเซมากชัดเจนด้วย

     

    ส่วนเรื่องของปัสสาวะเป็นเลือดนั้น อาจสัมพันธ์กับโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือการมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมต่อไป

     

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น การเปลี่ยนท่าช้าๆ ถ้ามีอาการให้รีบนั่งพัก รับประทานยาแก้เวียนศีรษะ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ และหากยังมีอาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ พักหรือกินยาตามที่แพทย์ให้มาไม่ทุเลา ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งค่ะ

    nnnfffon  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ nnnfffon

     

    อาการเวียนหัวศีรษะ โลกหมุน และอาเจียนบ่อย และปัสสาวะเป็นเลือด อาจจะต้องแยกกัน กล่าวคือเวียนหัวศีรษะ โลกหมุน และอาเจียนบ่อย อาจมีสาเหตุจาก ภาวะน้ำในหูไม่เท่ากัน ทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุนได้ หรือเป็นโรคของหูอื่นๆเช่น  ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน หูชั้นในอักเสบจากการติดเชื้อของหูชั้นกลาง  การเปลี่ยนท่าทางที่เร็วเกินไป หรืออย่างที่แพทย์กล่าวถึงอาจหมายถึงกลุ่มเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งมักจะมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเซมากชัดเจนด้วย

     

    ส่วนเรื่องของปัสสาวะเป็นเลือดนั้น อาจสัมพันธ์กับโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือการมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมต่อไป

     

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น การเปลี่ยนท่าช้าๆ ถ้ามีอาการให้รีบนั่งพัก รับประทานยาแก้เวียนศีรษะ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ และหากยังมีอาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ พักหรือกินยาตามที่แพทย์ให้มาไม่ทุเลา ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งค่ะ